สังคม

สำรวจความเสียหายเขตเศรษฐกิจเมืองเชียงใหม่ จมดินโคลน ผู้ประกอบการขอรัฐฟื้นฟูโดยเร็ว

โดย panisa_p

7 ต.ค. 2567

80 views

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เขตเศรษฐกิจในเมืองเสียหายอย่างหนัก ผู้ประกอบการบอกว่า มีการเตือนภัยและการป้องกันเต็มที่แล้ว แต่ปริมาณน้ำมีมาก จึงคาดหวังให้มีการฟื้นฟูโดยเร็ว ขณะที่ปัญหาการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำดอยน้อย ผูัอำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ยอมรับ บานประตู สลิงขาด แต่ไม่มีผลให้น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ และการระบายยังเป็นไปได้ตามคาดการณ์



เทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งทำความสะอาดถนนช้างคลาน และตลาดไนท์บาซาร์ รวมถึงถนนในย่านเศรษฐกิจที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของเมืองเชียงใหม่ที่ถูกน้ำท่วมรอบสองแล้ว และครั้งนี้น้ำท่วมสูงกว่าครั้งแรก ระดับน้ำกว่า 1 เมตร และมีดินโคลนมาด้วย ทำให้ทั้งถนนและตามร้านค้ามีดินโคลนอยู่ภายในร้าน ในครั้งนี้จึงต้องใช้เวลาทำความสะอาดหลายวันเพราะร้านค้ามีข้าวของเสียหายด้วย



ข่าว 3 มิติ ได้มาสำรวจในช่วงกลางวัน หลังน้ำลด และผู้ประกอบการเริ่มมาทำความสะอาด ต่างต้องการน้ำเพื่อมาล้างบ้าน และต้องการให้นำดินโคบนออกไปก่อน โดยสภาพที่ตลาดไนท์บาซาร์เก่า พบว่า มีน้ำขังที่ร้านใต้ดินด้วย ซึ่งต้องสูบน้ำออก ส่วนร้านค้าด้านบนน้ำท่วมไม่ถึง แต่คงต้องปิดไปจนกว่าจะมีการฟื้นฟูสภาพโดยรอบได้ ซึ่งมีการประกาศปิดไปตั้งแต่วันที 26 กันยายน ตั้งแต่น้ำท่วมรอบแรก ส่วนร้านค้าอื่นๆ ข้าวของเสียหายมาก เพระาคิดว่าจะท่วมเท่าครั้งแรก แค่ริมฟุตบาท และในปี 2554 ก็ท่วมเท่านั้น แต่ปีนี้ ท่วมสูงเกือบ 2 เมตร



ส่วนที่ถนนช้างม่อย ร้านค้าต่างๆ เสียหายอย่างหนัก เพราะเป็นย่านเศรษฐกิจ รวมไปถึงตลาดวโรรส ต่างเร่งทำความสะอาด ซึ่งพบว่าข้างของเสียหายจากน้ำท่วมทุกหลัง เพราะไม่เคยท่วมสูงขนาดนี้ และหลังปี 2554 มีการวางระบบป้องกันแล้ว รวมถึงในช่วงน้ำท่วมครั้งแรกก็ไม่ท่วมถึงขนาดนี้ แต่ละร้านก็มีการฟังการเตือนภัย ติดตามระดับน้ำ และวางกระสอบทราย แต่ปริมาณน้ำมีมาก เกินจากวิกฤตไปถึง 1 .60 ม. ทุกคนจึงไม่คาดคิด



เช่นเดียวกับร้านดอกไม้ย่านกาดหลวง ที่อยู่ติดริมแม่น้ำปิง ก็ไม่คิดว่าจะน้ำสูง แต่เนื่องจากระสอบทรายพัง ทำให้น้ำทะลักมาอย่างรวดเร็ว ร้านดอกไม้บางร้าน ยกของไว้ที่สูง แต่ที่จมน้ำไปก็มีมาก



ร้านดอกไม้ย่านกาดหลวง บอกว่าขอให้ภาครัฐ เร่งฟื้นฟูถนน น้ำประปา เพื่อให้เปิดการค้าขายมาได้โดยเร็ว และหลังจากนี้คงต้องทำพนังกันน้ำริมแม่น้ำปิงตรงจุดนี้ให้แข็งแรงขึ้น เพราะเป็นเขตเศรษฐกิจที่กระทบอย่างหนัก



สำหรับประเด็นร้อนที่มีการร้องเรียนจากประชาชนว่าประตูระบายน้ำ โครงการฝายดอยน้อย อำเภอดอยหล่อ ไม่เปิดประตูระบายน้ำจนทำให้น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่

นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ยอมรับว่าปัญหามาจากสลิงบานประตู 5 บานขาด หลังผลกระทบจากพายุ ซูลิค และยังซ่อมได้ยากเพราะน้ำมาก และต้องยกบานประตูที่หนัก 35 ตัส ทำให้ยกได้เพียง 3 เมตร มีบานเดียวที่ยกได้ 6 เมตร เต็มศักยภาพ แต่ไม่ได้ทำให้การระบายน้ำช้า จนทำให้น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ เพราะจากจุดนี้อยู่ห่างจากเมืองเชียงใหม่ กว่า 50 กม.และแม่น้ำปิงตรงจุดนี้ เป็นจุดรับน้ำมาจากแม่น้ำกวงและแม่น้ำปิง



อีกทั้งการที่บานประตูยกได้ไม่เต็ม ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการไหลของน้ำ แต่ทำให้น้ำไหลในอัตราที่เร็วขึ้น และปัญหาที่นี่ไม่ได้ส่งผลให้น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ เพราะเหตุที่น้ำท่วมรอบสอง มาจากน้ำเหนือจากอำเภอเชียงดาว อ.แม่แตง มามาก จึงเข้าท่วมอย่างหนัก แต่อัตราการระบายน้ำที่สถานี P1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง ยังเป็นไปตามคาดการณ์ ภายใน 2 วันน้ำที่ท่วมในเมืองลดแล้ว และระดับน้ำในแม่น้ำปิง จะลดต่ำกว่าวิกฤต 3.70 เมตร ในบ่ายวันนี้



ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ยืนยันว่า น้ำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำดอยน้อย จะไหลลงอ่างเก็บน้ำดอยเต่า และเขื่อนภูมิพล ซึ่งยังรับน้ำได้กว่า 30 % หรือกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำที่ท่วมจากจังหวัดเชียงใหม่ จะมีน้ำในเขื่อนภูมิพลเพิ่มกว่า 1,000 ล้านลบม. และหลังจากนี้ได้เร่งระบายน้ำทุกจุดที่ผ่าน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และ อ.เมือง จ.ลำพูน ให้ได้โดยเร็วที่สุด คาดว่าในเขต อ.สารภี จะคลี่คลายภายใน 1 สัปดาห์



โดยขณะนี้ทางกรมชลประทานได้ใช้รถตัดเศษสวะออกจากประตูระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ที่ประตูระบายน้ำดอยน้อย และได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญเพื่อจะระบายน้ำช่วยน้ำท่วมที่ยังหนักอยู่ในอำเภอสารภี และอีกหลายพื้นที่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

คุณอาจสนใจ

Related News