สังคม

นับถอยหลัง 20 วัน จะหมดอายุความ บุกค้นบ้าน 6 หลัง ไร้เงา 5 จำเลย 'คดีตากใบ'

โดย nut_p

5 ต.ค. 2567

40 views

รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นำกำลัง ไปติดตามจับกุมผู้ต้องหาและจำเลยในคดีตากใบ ตามภูมิลำเนาก่อนคดีจะหมดอายุความในอีก 20 วันข้าง ผลการตรวจสอบทั้ง 5 จุด 5 จังหวัด ปรากฎว่า ไม่พบตัวจำเลยแม้แต่รายเดียว ขณะที่รองประธานสภาฯ ที่เซ็นใบลาให้พลเอกพิศาลจำเลยที่ 1 ไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ก็ชี้แจงเหตุผลที่เซ็นใบลาให้ถึงวันที่ 30 ตุลาคมนี้



ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นำหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และหมายจับกุมนายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช



เจ้าหน้าที่ได้เข้าค้นบ้านพักของนายวิชม หลังหนึ่งในซอยปิยะชาติ กลางเมืองนครศรีธรรมราช แต่พบเพียง แม่บ้านที่มาทำความสะอาด ต่อมาเจ้าหน้าที่ จึงแจ้งลูกสาวของนายวิชม เข้ามารับหมายและตรวจสอบหมายจากเจ้าหน้าที่ พร้อมขอเข้าค้นตัวบ้าน โดยการตรวจค้นนั้นไม่พบตัวนายวิชม



โดยลูกระบุว่า ได้เดินทางไปพร้อมกับคุณแม่ไปอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร กว่า 1 เดือนแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง และข้อมูลที่เกี่ยวข้องพร้อมทำบันทึกการตรวจค้นเพื่อรายงานการตรวจค้นตามขั้นตอน



ขณะเดียวกันตำรวจชุดสืบสวนอีกชุดได้เข้าตรวจค้นบ้านอีกหลังของนายวิชม ที่ย่านตลาดท่าแพ เขตเทศบาลท่าแพ ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ไม่พบนายวิชมเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันนายวิชมมีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว



ขณะที่รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร นำกำลัง พร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดหลังสวน เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 3 ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อทำการติดตามจับกุม พันโท ประเสริฐ มัทมิฬ อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ บุคคลตามหมายจับของศาลปัตตานี ในความผิดฐาน "ร่วมกันฆ่าผู้อื่น" แต่ไม่พบตัว พันโท ประเสริฐ มัทมิฬ แต่อย่างใด



เช่นเดียว ที่สุราษฎร์ธานี ตำรวจ นำหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส และ หมายค้นศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2567 ไปที่บ้านเลขที่ 78/2 ถนนการุณราษฎร์ ต.ตลาด เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นบ้านพักของ พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ภายหลังถูกศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ เนื่องจากมีผู้เสียหายในคดีตากใบ แต่พบเพียงคนเฝ้าบ้าน แต่ไม่พบตัว พล.ต.ท.มาโนช ได้รับแจ้งว่า พล.ต.ท.มาโนช ไม่ได้มาที่บ้านหลังดังกล่าวหลายเดือนแล้ว จึงสั่งให้ตำรวจเร่งสืบสวนหาข่าวและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจับกุมตัวจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ภายในอายุความวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นี้



ที่สมุทรสงคราม ตำรวจภูธรภาค 7, สนธิกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสงคราม ตรวจค้นบ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 7 ต.คลองโคน อ.เมือง เพื่อติดตามจับกุม พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ในความผิดฐาน "ความผิดต่อชีวิต พยายาม ความผิดต่อเสรีภาพ แต่ไม่พบตัว เช่นกัน มีเพียงผู้ดูแลบ้านเท่านั้น



และจุดสุดท้าย ที่จังหวัดนนทบุรี ชุดสืบสวนพร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 53/88 หมู่ 5 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของพลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี อายุ 74 ปี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย



จากการตรวจค้นในบ้านพักหลังกล่าวไม่พบตัวพลเอกพิศาลอยู่ในบ้านพัก ผู้ดูแลบ้านบอกว่า พลเอกพิศาลไม่ได้พักอยู่ที่บ้านหลังนี้มานานกว่า 1 เดือน แล้วทราบแต่เพียงว่าเดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่ทราบว่าไปประเทศใดและเดินทางกลับเมื่อใด



ขณะที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ชี้แจง กรณี เซ็นอนุมัติให้ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลาประชุมสภาฯ โดยอ้างเหตุผลว่าป่วย และเดินทางไปรักษาตัวต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม ถึง 30 ตุลาคมนั้น นายพิเชษฐ์ บอกว่า ทุกคนสามารถลาประชุมได้ บางคนลา 80 ครั้ง ซึ่งถ้าเขาลา ก็ต้องให้ลา ไม่ได้เจาะจงว่าใคร ย้ำว่าใครจะลา ก็ลาได้ ไม่ว่าจะลาป่วย ลากิจ ลาธุระก็ว่ากันไป เพราะมีสิทธิ์ ถือเป็นเรื่องปกติของการลา ไม่ว่าใครก็สามารถลาได้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล

คุณอาจสนใจ

Related News