ผบก.ภ. 9 รับเหตุคาร์บอมบ์หน้าบ้าน นอภ. อาจโยงคดีตากใบ คาดคนร้ายมุ่งแสดงศักยภาพ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยอมรับว่า เหตุคาร์บอมบ์หน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เชื่อมโยง 20 ปี คดีตากใบ ที่กลุ่มคนร้ายต้องการแสดงศักยภาพและโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ โดยยืนยันว่าได้เร่งติดตามตัวจำเลยคดีตากใบมาให้ทันก่อนคดีจะหมดอายุความ ซึ่งล่าสุด สภ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้ออกหมายจับ ผู้ต้องหา 8 คน ที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องแล้ว ส่วนกลุ่มคนร้ายคดีคาร์บอมบ์ มีประมาณ 10 คน ได้เริ่งติดตามตัว และเตรียมแผนป้องกันเหตุในทุกพื้นที่



พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย ร่วมกับ พล.ต.ต.กฤษฎา จันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พ.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และ พ.ต.อ. ศุภชัย ณ พัทลุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตากใบ ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ หน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้ทหารบาดเจ็บ 2 นาย และบ้านพังเสียหาย 4 หลัง เมื่อคืนวันที่ 29 กันยายน ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนความเชื่อมโยงเหตุการณ์ปล้นรถยนต์ วางระเบิด และปล้นรถจักรยานยนต์หลบหนี



โดยกลุ่มคนร้ายมีประมาณ 10 คน คาดเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในจังหวัดนราธิวาส เพราะวางแผนเส้นทางหลบหนีไปยังมาเลเซีย รวมถึงกรณีที่พบการนำถังดับเพลิงจากมาเลเซียมาก่อเหตุ เพราะมีชายแดนติดกัน จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามหาตัวให้ได้



ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไม่ปฏิเสธว่าการก่อเหตุครั้งนี้เชื่อมโยงกับ 20 ปี คดีตากใบ และเป้าหมายของกลุ่มคนร้ายเพื่อแสดงศักยภาพและมุ่งโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเกิดขึ้นอยู่เสมอในพื้นที่ตากใบ



พลตำรวจโท ปิยวัฒน์ ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งเฉยในการติดตามตัวผู้ต้องหาคดีตากใบ ทั้งคดีที่ศาลจังหวัดนราธิวาสออกหมายจับจำเลย 6 คน และหมายเรียก1 คน ให้มาพบในวันที่15 ตุลาคมนี้ ก็ได้กำชับถึงการดูแลความปลอดภัย และการเร่งรัดคดี ที่ล่าสุด สภ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้รับคำสั่งฟ้องจากอัยการสูงสุด ได้ออกหมายจับผู้ต้องหา 8 คน แล้วเมื่อวานนี้ 30 กันยายน หลังมีคำสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา



ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ยืนยันว่าจำเลยและผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี รวม 14คน ทุกคนไม่ได้หนีออกนอกประเทศ และจะเร่งติดตามตัวมาให้ทันก่อนคดีจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้



สำหรับคดีคาร์บอมบ์ จะเร่งสืบสวนสอบสวน หาตัวคนร้ายป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ รวมถึงคดีปล้นปืน 12 กระบอกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ได้ดำเนินการในการติดตามอาวุธปืน และตัวผู้ก่อเหตุมาสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน