สำรวจความเสียหายสองฝั่งแม่น้ำกก จ.เชียงใหม่ หลังน้ำป่าทะลักชุมชนสองฝั่ง

20 วันที่ผ่านมา ข่าวที่ปรากฏที่แม่สาย ก็คือน้ำสายจากฝั่งเมียนมา ไหลทะลักจากฝั่งเมียนมา แล้วโผล่แบบกระชั้นชิดเข้าไป ตรงอำเภอแม่สาย จนเกิดน้ำท่วมและดินโคลนมากมาย และในเวลาใกล้เคียงกัน ข่าวจากสื่อต่างๆ รวมทั้งจากข่าว 3 มิติ ก็ได้รายงานความเสียหายน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นน้ำจากแม่น้ำกก วันนี้ ทีมข่าว 3 มิติ ได้พาย้อนขึ้นไปสุดเขตประเทศไทย เพื่อล่องเรือสำรวจความเสียหายจากอุทกภัยและน้ำป่าที่ทะลักมาจากฝั่งเมียนมา ในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่



ทีมข่าว 3 มิติ เริ่มจากจุดแรกเมื่อน้ำกกเข้าเขตประเทศไทย ที่ไหลผ่านภูเขา เป็นสายน้ำที่ไม่กว้างมากนัก ผิดกับในวันที่น้ำป่าและโคลนจากเมียนมา ไหลทะลักเข้ามา เมื่อคืนวันที่ 10 กันยายน ลำน้ำทั้งกว้าง ทั้งสูงกว่าที่เป็นนี้ 3-5 เมตร



ชุมชนบ้านแก่งทรายมูล ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ที่เห็นนี้ คือชุมชนแรกของไทย ที่รับน้ำมวลมหึมา บ้านหลายหลัง จึงพังอย่างที่เห็น ระหว่างการสำรวจฝนก็ตกที่ต้นน้ำกกฝั่งไทย ไม่ขาดสาย โอกาสที่ผู้หญิงคนนี้ จะได้ซ่อมแซมบ้าน เพื่อเข้าไปอยู่ก็ยากขึ้น หลังจากที่เธอเพิ่งเสียสามีไป 3 ก่อน หลังบ้านถูกน้ำซัดจนพัง ซึ่งเธอเชื่อว่า เกิดจากความเครียดจนโรคกำเริบ



จากชุมชนแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างนัก การร่องเรือสำรวจได้ดำเนินต่อไป จนพบว่า สายน้ำกก ได้พื้นที่เกษตรกรรม และพัดเอาดินตะกอนจากเมียนมาทับทน จนกลายเป็นเกาะขนาดใหญ่อย่างที่เห็น ซึ่งมีพื้นที่ลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายจุดมากในแม่น้ำกก



อีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงโค้งน้ำกก คือบ้านใหม่หมอกจ๋าม ถูกโคลนเข้าทับถมในบ้านนับร้อยหลัง น้ำท่วมเกือบมิดหลังคา แม้น้ำจะลดไปเกือบ 20 วันแล้ว แต่โคลนยังคงอยู่ จิตอาสา ชาวบ้าน และผู้ใหญ่บ้าน ได้ช่วยกันฟื้นฟู ทำความสะอาด ในระหว่างรอการเยียวยา จากรัฐ



ทีมสำรวจ ซึ่งมีทั้งทหารพราน จากกองทัพภาคที่ 3 ตำรวจ ตม. และชาวบ้าน พยายามจะเดินทางไปให้ครบทุกหมู่บ้าน ในตำบลท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ แต่สิ่งที่ปรากฏคือ ร่องน้ำกก ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก อันเป็นผลกระทบจากอุทกภัย จนคนขับเรือที่ชำนาญ ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย