นายกฯ ลงพื้นที่แม่สาย ติดตามการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจชาวบ้าน

สถานกาณ์น้ำในภาคเหนือจุดอื่น ๆ ตอนนี้แม่น้ำยม กลับมาวิกฤตหนักอีกครั้ง โดยเฉพาะที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ความแรงของน้ำพัดบ้านหายไปทั้งหลัง ส่วนภารกิจของนายกรัฐมนตรี ก่อนจะเดินทางไปเชียงใหม่ ช่วงเช้าวันนี้ได้ลงพื้นที่ อ.เเม่สาย จ.เชียงราย ติดตามความเสียหายและการฟื้นฟู พร้อมกับให้กำลังใจชาวบ้าน



เช้าวันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปที่ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย รับฟังรายงานผลกระทบ และติดตามการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ก่อนจะขึ้นรถจีเอ็มซีของทหารเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย ชุมชนเกาะทราย พร้อมกับบรรดารัฐมนตรี / ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ นายอำเภอแม่สาย



ระหว่างนั่งรถเข้าไป นายกรัฐมนตรีพบว่า สภาพสองข้างทางได้รับความเสียหายหนัก หลายจุดยังเต็มไปด้วยดินโคลน เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟู



จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินเท้าลุยโคลนเข้าไปติดตาม และให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครจากหน่วยต่าง ๆ ที่กำลังช่วยขนย้ายดินโคลนออกจากบ้านเรือนของประชาชน และซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน ซึงพบว่าบ้านบางหลังอยู่ในสภาพทรุดโทรมหนัก



นายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดย ขอให้ช่วยกันทำงานอย่างแข็งขัน และรัฐบาลก็จะช่วยต่อ พร้อมขอบคุณทุกคน เเละยืนยันว่าตนในฐานะนายกรัฐมตรี "จะไม่ทิ้งแน่นอน"​



ระหว่างลงพื้นที่ จุดนี้มีประชาชนเข้ามาสวมกอด​นายกรัฐมนตรี เล่าถึงความทุกข์ยากที่พบเจอ นายกฯเเพทองธาร ก็ได้สอบถามสุขภาพพร้อมกับให้กำลังใจ และยืนยันว่า เครื่องมือเครื่องจักรทุกอย่างยังอยู่ในพื้นที่ จะช่วยจนกว่าเข้าสู่ภาวะปกติ



การลงพื้นที่เเม่สายวันนี้ ยังมีทีมหมูป่าอะคาเดมี่ นำโดยโค้ชเอก ที่มาช่วยเหลืออยู่ในพื้นที่ ได้มายื่นข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรี ช่วยสนับสนุน ตั้งศูนย์เรียนรู้และฟื้นฟูจิตใจเด็กและเยาวชน ในชุมชนผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งนายกฯ ก็รับปากว่าจะช่วยแน่นอน​



นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่ อ.แม่สาย โดยบอกว่า ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะเคลียร์ดินโคลนบริเวณถนนที่เป็นถนนสายหลักทั้งหมด 24 สาย รวมถึง ตลาดสายลมจอย และจะกู้คืนสภาพโรงเรียนบ้านไม้ลุงขนให้สำเร็จ โดยคาดว่าประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ



นายกฯ บอกว่าอีกจุดที่น่าเป็นห่วงก็คือ อำเภอเมืองเชียงรายที่หนักเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าเครื่องมือต่าง ๆ ของที่อำเภอแม่สายเพียงพอแล้ว ก็ขอให้ขนไปช่วยที่อำเภอเมืองด้วย แต่จะต้องไม่ให้มีปัญหาขาดแคลนเครื่องมือ



อีกด้านหนึ่งที่ อ.เเจ้ห่ม จ.ลำปาง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการระบายน้ำในเขื่อนกิ่วคอหมา และตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน พร้อมทั้งวางมาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด



ซึ่งวันนี้พบว่าที่เขื่อนกิ่วคอหมา มีความจุน้ำอยู่ที่ 176.68 ล้านลบ.ม. ปริมาณน้ำเก็บกัก 170.29 ล้าน ลบ.ม. ( 103.75%) น้ำไหลเข้า 57.449 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 129.615 ล้าน ลบ.ม. สถานการณ์ปัจจุบัน น้ำยังคงไหลเข้าเขื่อนกิ่วคอหมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนสูงขึ้น จึงต้องพร่องน้ำออกจากเขื่อน ทำให้สถานการณ์บริเวณลุ่มน้ำวังท้ายเขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา น้ำวังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และที่ลุ่มต่ำติดแม่น้ำวัง



นายภูมิธรรม ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน โดยการนำข้อมูลสถิติย้อนหลัง และการพยากรณ์อากาศล่วงหน้า มาประกอบการวิเคราะห์และคาดการณ์ เพื่อนำไปสู่การวางแผนการบริหารจัดการน้ำ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป



ส่วนความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อน เจ้าหน้าที่ยืนยันว่ายังมีความมั่นคง-แข็งแรง และปลอดภัย สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ



ส่วนสถานการณ์น้ำจุดอื่น ๆ ทางภาคเหนือ ตอนนี้แม่น้ำยมกลับมาวิกฤตหนักอีกรอบ โดยเฉพาะที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย



จากภาพจะเห็นว่า บ้านไม้ชั้นเดียวหลังนี้ จากเดิมอยู่ติดริมแม่น้ำยม เเต่ด้วยความแรงและความเร็วของน้ำ ได้กัดเซาะดินริมฝั่งแม่น้ำ จนตอนนี้มาอยู่กลางลำน้ำยม ที่บริเวณ ม.6 ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เจ้าของบ้านคือ นางนิจ อินทรชื่น อายุ78 ปี กังวลว่าบ้านอาจจะถูกพัดหายไปทั้งหลัง เพราะตอนนี้เสาบ้านได้ขาดไปเเล้วถึง 3 ต้น / เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้าน ต้องกันพื้นที่ไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ เพราะเกรงว่า จะเกิดอันตราย



จนกระทั่งเวลา 18.00 น. มีรายงานว่าบ้านหลังนี้ ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำ ถูกพัดหายไปทั้งหลัง นับเป็นบ้านหลังที่ 2 ของประชาชนในหมู่บ้านนี้ ที่ถูกน้ำยมพัดบ้านพัง หายไปต่อหน้าต่อตา แม้แต่ทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านก็ไม่สามารถขนย้ายออกมาได้ ทางจังหวัดสุโขทัย เร่งให้การช่วยเหลื่อครอบครัวในเบื้องต้นแล้ว



ก่อนหน้านี้ ก็มีบ้านถูกพัดหายไปทั้งหลัง ภาพนี้ถูกส่งต่อทางสื่อสังคมออนไลน์ เจ้าของบ้านคือ นายวัฒนา สิทธิโชค อายุ 45 ปี



ส่วนความเสียหายจากน้ำท่วมพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก พบว่า มีผู้ประสบภัยน้ำท่วม 135 ครัวเรือน ในเบื้องต้น ได้อพยพกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราววัดท่าทอง 18 ครัวเรือน รวม 33 คน ซึ่งรวมถึงบ้านไม้ 2 หลัง ของนางนิจและนายวัฒนาด้วย ขณะนี้ทั้งคู่ ต้องไปพักอยู่ที่วัดท่าทองชั่วคราว



ส่วนที่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ความแรงของน้ำยมที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง ยังเอ่อล้น ทำให้ถนนสุโขทัย-วังไม้ขอน ที่ ม.6 ต.วังใหญ่ขาด ชาวบ้านไม่สามารถเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ได้ ทีมกู้ภัยต้องฝ่ากระแสน้ำหลากกลางชุมชน เข้าไปช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของ เพราะบางพื้นที่สูงเกือบ 2 เมตร โดยปริมาณน้ำยม ที่อ.ศรีลำโรง เป็นจุดเดียวที่สูงกว่าตลิ่งเกือบ 1 เมตร