ดินเชิงเขาสไลด์ทรุดตัว เหตุน้ำท่วมฉับพลัน อ.เมือง จ.เลย โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

จังหวัดนครพนม ประกาศเขตประสบสาธารณภัย เพื่อให้การช่วยเหลือฉุกเฉินครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ และคาดว่าพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะนาข้าวเสียหาย 9 หมื่นไร่ ส่วนระดับน้ำโขง ยังลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ขณะที่จังหวัดหนองคาย และบึงกาฬ อยู่ในระหว่างการเร่งฟื้นฟูและสำรวจความเสียหาย ขณะที่ชัยภูมิและจังหวัดเลย ถูกสั่งให้เฝ้าระวังน้ำป่าอย่างใกล้ชิด


ฝนตกหนักตลอดวัน ทำให้ดินที่บริเวณเชิงเขา บ้านท่าแพ หมู่ 2 ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย ทรุดตัวลง แต่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย และความเสียหายรุนแรง ขณะที่นายก อบต.เมือง เข้าไปดูที่เกิดเหตุเพื่อหาทางป้องกัน ขณะเดียวกัน เมื่อ 18.00 น. วันนี้ เกิดฝนตกหนักในอำเภอเมือง /ท่าลี่/วังสะพุง และเชียงคาน โดยในเขตอำเภอเมืองเลยนั้น เกิดน้ำท่วมขังฉับพลัน ในหมู่บ้านซอยเสมาชน และซอยเฮือนฮักเลย ระดับน้ำสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร จากนั้นก็ลดระดับลง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุว่านี่ทั้งดินเชิงเขาที่สไลด์ หรือทรุดตัวกับน้ำท่วมฉับพลัน อาจเป็นสัญญาณเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด


วันนี้ชาวอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เข้ารับมอบถุงยังชีพ 1000 ชุด จากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะที่นำเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานไปมอบให้ โดยนายจุลพันธ์ ระบุว่านายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ห่วงใยผู้ประสบภัย ได้กำชับให้รัฐมนตรีกระจายกัน ไปให้กำลังใจ และเยี่ยมเยือนประชาชนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการอนุมัติงบประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนบรรเทาความเดือดร้อนและซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย


เช่นเดียวกับที่จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งนายจุลพันธุ์ พร้อม ส.ส.ในพื้นที่และผุ้บริหารธนาคาร ธกส. นำถุงยังชีพ ไปมอบให้ผู้ประสบภัย ที่นาข้าว /สวนยางพารา /สวนปาล์ม และบ่อปลา ได้รับเสียหาย โดยนายจุลพันธุ์ ระบุว่ารัฐบาลจะเร่งสำรวจพื้นที่เสียหายเพื่อเยียวยาโดยเร็ว ขณะนี้ตั้งเงินทดรองจ่ายเพื่อช่วยเหลือจังหวัด ละ 20 ล้าน หากไม่พอ ก็ขอเพิ่มได้ เป็น 100 ล้านบาท และมีมาตรการบรรเทาเยียวยา สูงสุดครอบครัวละ 2 แสน 3 หมื่นบาท พร้อมประสานธนาคารของรัฐไว้เพื่อให้อนุมัติเงินกู้ฉุกเฉิน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ทั้งเพื่อดำรงชีวิตและซ่อมแซมบ้านเรือน โดยขอร้องผู้ประสบภัยอย่ากู้หนี้นอกระบบ


ที่จังหวัดนครพนม ระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านหนองแสง ตำบลในเมือง วันนี้ อยู่ที่ระดับ 11 เมตร 23 เซนติเมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 86 เซนติเมตร และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ แต่ปริมาณน้ำในลำน้ำสาขา ทั้งลำน้ำอูน ลำน้ำสงครามยังสูง เพราะอิทธิพลจากดีเปรสชั่นซูลิก ที่ยังปกคลุมพื้นที่


ขณะนี้จังหวัดนครพนม ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินอุทกภัย รวม 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครพนม/ ท่าอุเทน/ นาหว้า/ บ้านแพง /นาทม/ และอำเภอศรีสงคราม มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังประมาณ 250 หลัง หนักที่สุดอยู่ที่อำเภอศรีสงคราม เนื่องจากลำน้ำสงคราม ระบายลงสู่แม่น้ำโขงได้ช้า และเฉพาะที่อำเภอศรีสงคราม คาดว่านาข้าวเสียหาย ไม่น้อยกว่า 51,000 ไร่ รองลงมาคืออำเภอนาทม คาดว่านาข้าวเสียหาย ประมาณ 19,000 ไร่ แต่เมื่อรวมกับอำเภออื่นๆ คาดว่าปพื้นที่เสียหายประมาณ 86,000 ไร่


วันนี้ จังหวัดนครพนม ได้รับหญ้าแห้งอาหารสัตว์พระราชทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ที่ประสบปัญหาอุทกภัย ในเขตอำเภอนาทม และอำเภอศรีสงคราม จำนวน 2 หมื่นกิโลกรัม พร้อมด้วยถุงยังชีพด้านปศุสัตว์ จำนวน 80 ชุดยา รักษาโรค ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุง ยาถ่ายพยาธิ อาหารสุนัขและแมว ทั้งหมด 3 อำเภอ ซึ่งจะช่วยเหลือปศุสัตว์ได้ประมาณ 1,500 ตัว ก่อนหน้านี้ทั้งภาครัฐและเอกชนนำเสบียงอาหารถุงยังชีพ มอบให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง