อุตุฯ เตือน ทั่วไทยฝนยังหนัก 21-23 ก.ย.นี้ อิทธิพลจากร่องมรสุม

สภาพดินฟ้าอากาศ ที่ตลอดทั้งวันนี้มีฝนตกปกคลุมเกือบทั่วทุกภาคของประเทศรวมทั้งกรุงเทพมหานคร แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ยังคงต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกระยะกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ



โดยวันนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับล่าสุด ระบุว่า ในช่วงวันที่ 21-23 กันยายนนี้ ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่



ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือตอนล่าง



ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม



ส่วนฝนที่ตกลงมาก็ทำให้ ที่น้ำตกทีลอซู จ.ตาก ซึ่งเป็นน้ำตกมรดกโลก เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำเป็นสีแดงเข้ม และมีความรุนแรงสูง จนทำให้ ลานที่นักท่องเที่ยวใช้บันทึกถล่มลงไปกับน้ำ แต่ไม่มีผู้ได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จึงออกประกาศด่วน สั่งปิดน้ำตก จนกล่าวสถานกาณณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ



ส่วนที่จังหวัดลำปาง เกิดเหตุ ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับ หญิงอายุ 44 ปี ชาวบ้านใหม่พัฒนา ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จนเสียชีวิต คาที่ ในสภาพศพนั่งคร่อมรถจักรยายนยนต์ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านต้องนำเลื่อยยนต์มาตัดกิ่งไม้ เพื่อร่างผู้เสียชีวิตออกมา



ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกในพื้นที่หลายวัน คาดว่าดินคงร่วน และอุ้มน้ำมาก ทำให้ต้นไม้โค่นลงมาดังกล่าว



ส่วนที่กรุงเทพมหานคร วันนี้ก็มีฝนตกหนักกระจายในหลายพื้นที่ โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่า สถานการณ์ฝนตกและปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครเช่นวันนี้ มีน้ำท่วมในเขตดอนเมือง พบว่าเป็นน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกสะสม



โดยตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมตั้งแต่เมื่อคืน พบระดับน้ำในคลองเปรมประชากรเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.2 เมตรใกล้จุดวิกฤตที่ 1.8 เมตร แต่ได้เร่งเข้าไปบรรเทาระบายน้ำแล้ว ซึ่งในช่วงเช้าพบว่าระดับน้ำลดลง



ทั้งนี้น้ำท่วมที่เกิดขึ้นไม่ใช่น้ำเหนือหรือน้ำเขื่อนที่เกิดจากการระบายแต่เป็นน้ำที่เกิดจากฝนตกสะสมซึ่งสถานการณ์จะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงเท่านั้น พร้อมขอโทษประชาชนที่มีน้ำท่วมขังแต่เป็นสภาพที่เกิดเพราะฝนตกหนักจริงๆ



วันนี้ได้สั่งการให้แจกกระสอบทรายไปยังจุดพื้นที่เปราะบางเพื่อการเฝ้าระวังน้ำท่วมหรือน้ำเอ่อล้น โดยยังต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์กรณีของพายุสุริยะที่เชื่อว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครเองยังคงมีฝนตกอยู่ใน1-2 วันนี้ ต้องคอยติดตามสถานการณ์เป็นพื้นที่ไปส่วนของน้ำเหนือยังไม่มาก คาดว่าส่วนของน้ำเหนือที่จะไหลบ่ามากรุงเทพมหานครจะมากในช่วง 20 ตุลาคม ที่ระดับน้ำจะขึ้นสูงสุด ประมาณ1.5 เมตร ซึ่งก็ยังไม่ถึงจุดวิกฤต แต่ก็จะเฝ้าติดตามสถานการณ์