กาฬสินธุ์รับมือฝนตกหนักจาก 'ซูลิก' จนท. เผย 'เขื่อนลำปาว' ยังรับน้ำได้อีกราว 500 ล้าน ลบ.ม. ช่วยลดผลกระทบ

สถานการณ์พายุซูลิก ที่อ่อนตัวลงจากพายุโซนร้อน เป็นดีเปรสชัน ปกคลุมหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งในภาคกลางเช่นที่เขตดอนเมือง และปทุมธานี ที่ฝนตกหนักเมื่อช่วงค่ำ รวมถึงหลายจังหวัดในภาคอีสานที่ทำให้เกิดฝนตกตลอดวัน



ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาววันนี้อยู่ที่ 1,463 ล้าน ลบ.ม. ระดับกักเก็บอยู่ที่ 1,980 ล้าน ลบ.ม. หรือกักเก็บน้ำไปแล้วร้อยละ 70 ของความจุอ่าง ยังรับน้ำได้อีกราว 500 ล้านลูกบาศก์เมตร



หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ระบุว่าการลดระดับลงของพายุซูลิก ทำให้มีฝนกระจายคลุมพื้นที่ แต่ไม่ถึงกับหนักมาก



ตอนนี้การบริหารน้ำของเขื่อนลำปาว เป็นไปตามแผนงานที่กรมชลประทานกำหนด ซึ่งมีระดับควบคุมชัดเจนทั้งระดับกักเก็บที่ต้องไม่มากกว่าเกณฑ์เพื่อป้องกันน้ำท่วม และต้องไม่กักเก็บน้อยกว่าเกณฑ์เพื่อป้องกันภัยแล้ง



สำหรับแม่น้ำโขง ที่จังหวัดหนองคาย ขณะนี้ระดับน้ำไหลกลับเข้าลำน้ำแล้ว เหลือที่ตกค้างในที่ลุ่มบางส่วนของอำเภอโพนพิสัย ต้องสูบออก ส่วนที่จังหวัดนครพนม ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงอยู่ที่ระดับ 11 เมตร 50 เซนติเมตร แต่สำหรับที่ ต.ปากน้ำไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำสงคราม ไหลไปบรรจบแม่น้ำโขงนั้น แม้ว่าภาพของแม่น้ำสองสีที่ต่างกันจะยืนยันได้ว่า แม่น้ำสงครามยังไหลออกสู่แม่น้ำโขงได้ แต่ก็ยังเอื่อยหรือช้ามาก



และหากยึดตามระดับความสูงของลำน้ำสองสายนี้แล้ว หากแม่น้ำโขงลดต่ำกว่าระดับ 10 เมตรลงไป จึงจะทำให้น้ำจากแม่น้ำสงคราม ไหลลงแม่น้ำโขงได้สะดวกกว่านี้



เมื่อแม่น้ำสงคราม ไหลลงไม่สะดวกมากนัก จึงทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่ม ที่บริเวณบ้านปากอูน และบ้านปากยาม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำอูน และแม่น้ำยาม ต้นน้ำจากเทือกเขาภูพาน สกลนคร ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำสงครามที่นี่ ทำให้ยังมีน้ำท่วมขังอีกนาน



กำนันตำบลท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม บอกว่าพื้นที่ลุ่มเหล่านี้ยังต้องอยู่กับน้ำอีกนาน สิ่งที่คนภายนอกจะช่วยเหลือได้ก็คือเสบียงอาหารและหญ้าอาหารสัตว์ด้วย



ถึงแม้ตอนนี้ความกังวลเรื่องผลกระทบจากพายุซูลิก จะเบาบางลง แต่อิทธิพลพายุที่ทำให้ฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับพื้นที่ลุ่มที่มีน้ำท่วมขัง ทำให้ความเดือดร้อนในพื้นที่เหล่านั้น ยังต้องได้รับการช่วยเหลือ