เตือนดีเปรสชันทวีเป็นพายุโซนร้อน 'ซูลิก' ขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ ไทยจับตาพายุเคลื่อนผ่าน นครพนม-สกลนคร

กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้พายุดีเปรสชันได้ทวีความแรงเป็น "พายุโซนร้อนซูลิก" แล้ว เเละจะขึ้นฝั่งที่เวียดนามคืนนี้ โดยกรมอุตุฯคาดว่านี่จะเป็น "พายุลูกแรกของปี" ที่เคลื่อนเข้ามากระทบกับประเทศไทยโดยตรง ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ เเละอาจจะมีปริมาณฝนสะสมตั้งเเต่ 300-400 มิลลิเมตร คล้ายกับปริมาณฝนที่เกิดขึ้นกับจังหวัดเชียงรายก่อนหน้านี้



นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐทนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิด"ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อนซูลิก" ที่ศูนย์บัญชาการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ติดตาม-เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนได้รวดเร็วและทันท่วงที ตั้งแต่วันนี้ ถึง 23 กันยายน



นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้ข้อมูลว่า ดีเปรสชันได้ทวีความแรงเป็นพายุโซนร้อนซูลิกแล้ว ขณะนี้ศูนย์กลางพายุ กำลังเคลื่อนมาทางตอนกลางของเวียดนาม ทำให้จะเริ่มมีกลุ่มเมฆล้ำเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสาน ของไทยบางส่วน โดยพายุลูกนี้ เริ่มขึ้นฝั่งที่เวียดนามตั้งเเต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา เเละจากนี้ก็คาดว่าจะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน



แนวโน้มของพายุ จะเคลื่อนตัวไปทางภาคอีสานตอนบนของไทย บริเวณ จ.นครพนมและสกลนคร เป็นพื้นที่แรกที่ต้องเฝ้าระวัง ทั้งนี้หากพายุยังคงความแรงไม่ลดลง จะถือว่า "ซูลิก" เป็นพายุลูกแรกของปีนี้ ที่เคลื่อนเข้าสู่ไทยโดยตรง



จากนั้นก็จะค่อยๆสลาย กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ก็จะทำให้มีฝนตกแช่ ตกซ้ำ ๆ ในพื้นที่อีสานตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง และจะมีการดึงลมเพื่อไปเลี้ยงพายุ จะทำให้เกิดกลุ่มเมฆฝนที่ภาคกลาง อย่าง พื้นที่กทม.และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เช่น ภูเก็ต ตรัง สตูล ระนอง ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก



เช่นเดียวกับ ภาคตะวันออก อย่าง จันทบุรี ตราด เสี่ยงฝนตกหนัก-ลมแรงเช่นกัน จากอิทธิพลของพายุ จะทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคอีสาน และภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งบางพื้นที่อาจจะมีฝนตกหนักมากถึง 300 – 400 มิลลิเมตร เทียบเท่ากับปริมาณฝนที่ตกหนักในจังหวัดเชียงรายก่อนหน้านี้



ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนาม เรียกพายุลูกนี้ว่า พายุหมายเลข 4 เริ่มพัดขึ้นฝั่งตั้งแต่จังหวัดกว๋างจิ ไปจนถึงจังหวัดกว่างนาม ด้วยความเร็วลมสูงสุด 102 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนัก ประมาณ 100 – 300 มิลลิเมตรในพื้นที่ทางตอนกลางของประเทศ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงพรุ่งนี้ ก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาว แล้วอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน คาดการณ์ว่าพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนัก ในที่สูงตอนกลาง (Central Highlands) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุด ของเวียดนามด้วย



ขณะที่พายุกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้แผ่นดิน มีรายงานว่าบริเวณพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลตะวันออก ซึ่งประกอบด้วยหมู่เกาะพาร์เซล หรือ หมู่เกาะฮว่างซา (Hoang Sa) รวมถึงน่านน้ำชายฝั่งตั้งแต่เมืองเหงะอาน ไปจนถึงกว๋างไหง มีลมพัดแรง 24 – 61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคลื่นสูง 2 – 4 เมตร ขณะที่บริเวณใกล้จุดศูนย์กลางพายุมีลมแรง 62 – 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคลื่นสูง 3 – 5 เมตร



ก่อนหน้านี้ ทางการเวียดนามได้ประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมรีบมือ และระมัดระวังอันตรายจากพายุที่อาจทำให้ต้นไม้หักโค่น หลังคาบ้านปลิว และป้ายโฆษณาพังเสียหาย



สำนักงานการบินพลเรือนของเวียดนาม ได้สั่งระงับเที่ยวบินที่สนามบินด่งฮ่อย (Dong Hoi Airport) ในจังหวัดกว๋างบิ่ญ ตั้งแต่ 15.00 น. ถึง 22.00 น. วันนี้ ส่วนที่เมืองดานัง ทางการได้สั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่บ่ายวานนี้ เช่นเดียวกับจังหวัดกว่างนาม สั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษา เป็นเวลา 1 วัน