'ภูมิธรรม' ประชุม ศปช. สั่งทบทวนเกณฑ์เยียวยาปชช.ใหม่ พร้อมย้ำ ดีอี ประสานค่ายมือถือ ร่วมแจ้งเตือนภัย

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม วันนี้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช.ที่ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการประชุมครั้งแรกเพื่อวางกรอบการทำงาน รวมทั้งทบทวนเรื่องเงินเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยใหม่ หลังใช้มานาน และกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์



นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. ครั้งที่ 1/2567 ว่า สืบเนื่องจากกรณีที่เกิดเหตุอุทกภัย วาตภัย ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทุกหน่วยงานราชการได้เข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วนั้น เพื่อให้การจัดการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ คอส. ขึ้นมา โดยมี นายกรัฐมนตรี เป็นประธานให้ตั้งศูนย์ ศปช.ขึ้น



โครงสร้างของ ศปช. ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมในวันนี้จึงได้รับทราบคำสั่งและบทบาทหน้าที่ เช่น ติดตามประเมินสถานการณ์ และบูรณาการปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และดินโคลนถล่ม เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศ คาดการณ์สภาพอากาศ ปริมาณน้ำ แหล่งกักเก็บน้ำ พื้นที่น้ำหลาก การขึ้น-ลงของน้ำทะเล เพื่อแจ้งเตือนสร้างการรับรู้ และประสานช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน



รวมถึงการวางแผนการเคลื่อนย้าย เตรียมที่พักอาศัยให้ผู้ประสบภัย และการจัดส่งอาหาร ตลอดจนการส่งเครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ยังชีพให้พอเพียง พร้อมกับประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนเท่าทันต่อเหตุการณ์ โดยให้รายงานผลการปฏิบัติงานให้ ศปช. รับทราบเป็นระยะๆตามความเหมาะสม



สำหรับการแก้ไขปัญหา ที่ประชุม ครม.เมื่อวานนี้ ได้อนุมัติกรอบวงเงิน 3,045 ล้านบาท ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยเยียวยาตามมติ ครม.เดิม เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงอย่างทันท่วงที รวมทั้งทบทวนการเยียวยาประชาชนใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน



ขณะเดียวกัน ยังได้มีการตั้งคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ โดยมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กรมประชาสัมพันธ์ และตัวแทนสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมดูแล ส่วนการเตือนภัยล่วงหน้า ได้มอบให้ GISTDA กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมอุตุนิยมวิทยา เป็นแม่ข่ายในการดำเนินการและรับผิดชอบ โดยสามารถพยากรณ์ทิศทางของลมมรสุมที่จะเข้ามาได้ ให้เห็นตั้งแต่ต้นทางไปจนถึง สปป.ลาว เมียนมา ซึ่งจะมีการเตือนภัยล่วงหน้าเพื่อจัดทีมในการดูแลแต่ละพื้นที่



ส่วนเรื่องการแจ้งเตือนภัยที่ยังไม่เข้าถึงประชาชนในบางพื้นที่ นายภูมิธรรม ย้ำว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงดีอี ประสานงานกับค่ายมือถือ เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ดังนั้นทุกเรื่องที่ประชุมกันในวันนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปปฏิบัติทันที



นายภูมิธรรม ยังย้ำว่าพื้นที่ใดที่เป็นจุดเสี่ยงเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเข้าไปปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือและดูแลประชาชนทันที และอยากเห็นการพยากรณ์ในพื้นที่เฉพาะ