วันโอโซนโลก 'กลุ่มธุรกิจเอ็ม บี เค' ร่วมแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

วันนี้ 16 กันยายน เป็นวันโอโซนโลก หรือ World Ozone Day ถือเป็นวันที่กำหนดขึ้น เพื่อให้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงการร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อช่วยกันรักษาโอโซนของโลก เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศไทยได้ตั้งเป้าเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 ทำให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ของไทยตื่นตัวและขานรับพันธสัญญาทีไทย ได้ประกาศออกไปวันนี้เรามีตัวอย่าง การดำเนินการของภาคธุรกิจไทยจาก กลุ่มธุรกิจเอ็ม บี เค


ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาหรือ Solar Rooftop ที่เห็นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพยายามของกลุ่มอ็มบีเคที่ดำเนินการติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2563 บนหลังคาอาคารต่าง ๆ ของธุรกิจในเครือ จำนวน 9 อาคาร ทั้งธุรกิจศูนย์การค้า ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ธุรกิจกอล์ฟ .และธุรกิจการประมูล ได้ดำเนินการจ่ายไฟเข้าระบบแล้วจำนวน 3,833 kWp. (Kilowatt Peak) และปีนี้ ตั้งเป้าหมายที่จะจ่ายไฟเข้าระบบเพิ่ม 3,684 kWp. (Kilowatt Peak) และในปี 2568 MBK Group จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากระบบ Solar Rooftop รวมประมาณ 8 MWp ( Megawatt Peak ) โดยคาดว่าจะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้ารวมลงได้ประมาณ 10 ล้าน KWh ( Kilowatt Hour ) ต่อปี และยังได้ ปรับปรุงระบบควบคุมการปรับอากาศขนาดใหญ่แบบอัตโนมัติ

โดยใช้AIเข้ามาช่วย ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการส่งเสริมและให้ความสำคัญของการใช้พลังงานสะอาด เป็นพลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน เป็นพันธกิจสำคัญของกลุ่ม เอ็มบีเค ที่มุ่งดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ


"การบริหารธุรกิจให้มั่นคงแข็งแกร่ง ภายใต้ความรับผิดชอบต่อสังคม ถือเป็นหน้าที่สำคัญของกลุ่มเอ็ม บี เค เราดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม เริ่มจากกระบวนการภายใน ไปจนถึงการสนับสนุนกิจกรรมที่คำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงาน และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เรามุ่งมั่นขานรับนโยบายรัฐที่ได้ให้พันธสัญญาในการประชุม Corp 26 ร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่ Net Zero ในปี 2050 (MBK ตั้งเป้าหมายไว้ที่ปี 2050)

โดยให้ความสำคัญกับการจัดการพลังงาน เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด จากแหล่งพลังงานทางเลือก และการจัดการขยะและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ แคปชั่น คุณวิจักษณ์ ประดิษฐวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้อำนวยการ บ.เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)


นอกจากการส่งเสริม การใช้พลังงานสะอาดอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว กลุ่มเอ็มบีเค ยังทำโครงการ MBK Green Community ซึ่งเป็นโครงการปลูกต้นไม้เพื่อขยายพื้นที่สีเขียว ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่เป็นพื้นที่ตั้งของธุรกิจในเครือ โดยสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ 626 ไร่ รวมปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ลดได้จากการปลูกต้นไม้และปลูกป่ากว่า 258,456 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (NET ZERO EMISSIONS) นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการขยะและลดการปล่อยของเสีย ที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ผ่านโครงการต่าง ๆ ทั้งในองค์กรเอง และร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการส่งต่อขยะรีไซเคิลเข้าสู่กระบวนการแปรรูป และนำกลับมาใช้ใหม่ โดยตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบันมีจำนวนขยะที่ส่งต่อสู่กระบวนการรีไซเคิล จำนวนกว่า 1,000 ตัน ผลจากการดำเนินโครงการต่างๆเหล่านี้ ทำให้เอ็ม บี เค ได้รับคัดเลือก ให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG 100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียนในปี 2567 ของสถาบันไทยพัฒน์ / ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ คว้ารางวัล MEA ENERGY AWARDS การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณภาพอากาศได้มาตรฐาน จากการไฟฟ้านครหลวง และยังเป็นอาคารศูนย์การค้าแห่งแรก ที่ได้รับรองระบบการการด้านพลังงาน ตามมาตรฐาน ISO 50001 รวมถึง ท่าเรือริเวอร์เดล มารีน่า ธุรกิจในเครือเอ็ม บี เค ยังได้รับรางวัล THE INTERNATIONAL CLEAN MARINA ซึ่งเป็นระบบการรับรองระหว่างประเทศ จากประเทศออสเตรเลีย ด้านการบริการและการอนุรักษ์ด้วย