ฝนตกหนัก ภูเก็ตเฝ้าระวังจุดเสี่ยงดินถล่มซ้ำ ผู้นำชุมชน ร้อง รบ.ใหม่ผลักดันงบฯ แก้ปัญหา

วันนี้ที่จังหวัดภูเก็ต ก็ยังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทำให้น้ำท่วมขังในตำบลเทพกษัตรี ตำบลเชิงทะเล เทศบาลตำบลเชิงทะเล และเทศบาลตำบลศรีสุนทร ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบายน้ำ ที่ท่วมขังออกไปได้ก็จริง แต่ฝนที่ยังตกหนัก ทำให้หลายพื้นยังเสี่ยงต่อปัญหาดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะตำบลกมลา ที่ดินโคลนถล่มลง 3 จุด เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า มีความเสี่ยงที่จะถล่มซ้ำอีก ขณะผู้นำชุมชนหวังว่ารัฐบาลใหม่ จะผลักดันงบประมาณแก้ปัญหาต่อเนื่องจากรัฐบาลที่แล้ว ที่รับปากไว้



ลำธารนี้ เดิมทีมีความกว้างเพียง 1 วา มีน้ำจากเทือกเขากมลา ไหลซึมซับมาตลอดปี เป็นลำธารที่ไหลผ่านชั้นหินแกรนิต ดินและทราย บนยอดเขา ลงมาถึงบ้านหัวควน ต.กมลา แต่หลังจากฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้ดินโคลนถล่ม เมื่อ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา พัดพาก้อนหิน ดินทรายจากบนเขา ลงพื้น และทำให้ลำธารนี้จากเดิม ที่กว้าง เพียง 1 วา ตอนนี้ขยายกว้างนับ 10 เมตร



ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลกมลา บอกว่านับจากที่ดินโคลนถล่มเมื่อเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา แม้ว่าครั้งนั้นจะไม่มีผู้ได้รับอันตราย แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านก็ยังหวาดผวา เพราะได้เห็น แล้วว่าดินและหินที่ถล่มมาจากยอดเขาถึงชุมชนใช้เวลาไม่นาน



พิกัดดินถล่มที่บ้านหัวควน ตำบลกมลา แตกต่างจากกรณีดินถล่มที่เขานาคเกิด เนื่องจากที่นั่นมีการสร้างองค์พระใหญ่ที่บนยอดเขา และพบว่ามีการก่อสร้างส่วน ที่เป็นลาน จอดรถ เพิ่มมาจากส่วนที่อนุญาต ซึ่งขั้นตอนการสร้างมีร่องรอยการนำเศษดิน หิน ปูนฉาบเหล็กเส้นมาเทกองบนหน้าดินในบริเวณที่ทรุดลง และเจ้าหน้าที่พบว่า อาคารที่สร้าง ขึ้นใหม่ด้านหลังองค์พระ ได้กีดขวางทางน้ำที่จะไหลจากยอดเขาให้กระจายไปหลายทิศทาง กลายเป็นทางน้ำถูกบังคับให้ระบายลงทางเดียว ซึ่งความแรงของน้ำที่ระบาย ลงทางเดียวในภาวะที่ฝนตกหนักนั้น ได้ทะลักลงร่องน้ำเดิมที่ถูกเศษหินดินทับอยู่ กระทั่งพังลงมาทั้งหมด



ส่วนที่บ้านหัวควน ดินถล่มจากยอดเขาโดยไม่มีสิ่งปลูกสร้างหรือการกระตุ้นจากมนุษย์โดยตรง นักธรณีวิทยามองว่า เป็นเพราะปรากฏการณ์ฝนตกหนัก ตกแช่ในจุดเดียว ยาวนาน จนดินรับน้ำหนักไม่ไหวและทรุดตัวลง



อย่างไรก็ตาม ปลายทางของจุดที่ดินโคลนถล่ม มีความกว้างและมีหลายจุด ยากที่จะทำตะแกรงหรือตาข่ายลวดได้ ที่นี่จึงมี แนวโน้มที่จะเป็นการสร้างฝายเพื่อชะลอความแรงของดินโคลนที่จะถล่มลง



ที่บ้านหัวควน อดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้ลงพื้นที่ที่นี่ และขณะนั้นระบุว่าจะผลักดัน งบกลางเพื่อทำฝายดักตะกอนและหินที่จะถล่มลงมาอีก ผู้คนที่นี่จึงหวังว่ารัฐบาล ปัจจุบันจะผลักดันต่อเนื่อง



ตอนนี้พื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่มในภูเก็ต ทั้งในจุดเดิมที่อาจจะถล่มซ้ำ และจุดใหม่ที่อาจถล่มเพิ่ม ถูกจับตาเฝ้าระวังโดยภาครัฐ ผู้นำชุมชนและอาสาสมัครที่จะนำกระบอกวัดปริมาณน้ำฝน ตามที่กรมทรัพยากรธรณีมอบให้ ใช้เก็บข้อมูลปริมาณน้ำฝนที่ตกแต่ละวันและสะสม เพื่อประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์ดังกล่าว