สังคม

เปิดนโยบาย 'รบ.แพทองธาร' ที่จะแถลงต่อรัฐสภา 12-13 ก.ย. นี้

โดย panwilai_c

7 ก.ย. 2567

140 views

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีนัดพิเศษได้ให้ความเห็นชอบนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 กันยายนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่นำมาปรับให้ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายเร่งด่วน เช่นปรับโครงสร้างหนี้ การช่วยเหลือ SMEs กระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง



ส่วนนโยบายระยะกลางและระยะยาว เช่น การต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม การเสริมสร้างสร้างสรรค์ และซอฟต์พาวเวอร์ โครงสร้างพื้นฐานทางสังคม-คมนาคม ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาคน รวมถึงการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรและน้ำท่วม



นายกรัฐมนตรี ยังได้ยืนยันว่าไม่ได้กังวลที่จะถูกจองกฐินทางการเมือง ถูกร้องเรียนต่างๆ ซึ่งส่วนตัวไม่อยากถูกดำเนินคดีเพราะลูกยังเล็ก และไม่อยากให้พูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร ว่าจะมาครอบงำทางการเมืองอีก



สำหรับคำแถลงนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มี 14 หน้า สาระสำคัญ เน้นย้ำว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทาย เช่น ความหวัง โอกาส และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม ที่เป็นหน้าที่สำคัญของรัฐบาล ที่ต้องแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ที่มีมูลค่ากว่า 16 ล้านล้านบาท การเข้าสู่สังคมสูงวัย ที่ต้องมีนโยบายรองรับ รวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความท้าทายจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ที่เปลี่ยนแปลงไปจึงต้องปรับท่าทีของประเทศในการปฏิรูปสัมพันธ์นานาประเทศ



โดยมี 10 นโยบายเร่งด่วนที่ทำทันที คือ

1. รัฐบาลจะผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ

2.รัฐบาลจะดูแลและส่งเสริมพร้อมกับปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SME

3.จะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค

4.จะสร้างรายได้ใหม่ของรัฐด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี informal Economy และเศรษฐกิจใต้ดิน underground economy เข้าสู่ระบบภาษี 

5.การผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สู่การพัฒนาศูนย์ข้อมูลภาครัฐ

6.จะยกระดับการเกษตรให้ทันสมัย

7.ส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่นการสร้างสถานบันบันเทิงครบวงจร entertainment complex

8.จะแก้ปัญหายาเสพติด เก้า แก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และอาชญากรรมข้ามชาติ และสอบ การจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปเช่น คนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธ์ และบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ



รวมถึงการส่งเสริม Soft powet green economy เศรษฐกิจโลกสีเขียว การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสุขภาพ และให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก การปรับโครงสร้างทางภาษีครั้งใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้ ไปสู่แบบ negative income tax ที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับเงินภาษีคืนเป็นขั้นบันได รวมถึงรัฐบาลจะเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยเร็วที่สุด รัฐบาลจะยึดมั่นหลักนิติธรรม Rule of law การปฏิรูประบบราชการและกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญกับการจัดการน้ำ และสานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน เร่งพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของคนไทยและต่อชาติ ต่อยอดและยกระดับระบบสาธารณสุขของไทย จาก 30 บาทรักษาทุกโรคมาเป็น 20 บาทรักษาทุกที่



รวมถึงในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย จะส่งเสริมความเท่าเทียมของชายและหญิง การรักษาจุดยืนของการไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ และรัฐบาลมมีความมุ่งมั่นที่จะพิทักษ์ไว้ซึ่งสถานบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

คุณอาจสนใจ

Related News