สังคม

สนทช. ประชุมด่วน 9 จังหวัด รับมือน้ำเพิ่มสูง หลังเขื่อนเจ้าพระยาเตรียมระบายน้ำ

โดย panwilai_c

5 ก.ย. 2567

86 views

สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำภาคกลาง ที่กำลังเข้าสู่ช่วงรับน้ำที่ไหลต่อมาจากหลายจังหวัดตอนบน และฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่ วันนี้ สนทช. ประชุมด่วน 9 จังหวัด เพื่อประเมินเตรียมความพร้อมรับมือในการบริหารจัดการน้ำ เขื่อนเจ้าพระยาเตรียม จะเร่งระบายน้ำ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมกำชับหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ



ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประชุมด่วน 9 จังหวัดภาคกลาง ลุ่มเจ้าพระยาท้ายเขื่อนเจ้าพระยาทางวีดีโอ conference พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินเตรียมความพร้อมเตรียมรับมือในการบริหารจัดการน้ำ เขื่อนเจ้าพระยาเตรียมเร่งระบายน้ำ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เกรงว่า หากมีฝนตกลงมาซ้ำเติม จะกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ และโบราณสถานริมแม่น้ำเจ้าพระยา



ซึ่งภายหลังการประชุม ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผย ว่า ที่ประชุมมีมติ ให้เร่งระบายพร่องน้ำเขื่อนเจ้าพระยาลงท้ายเขื่อน สูงสุดไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เป็นการทยอยพร่องน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะระบายสูงสุดถึง 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีช่วงระหว่างวันที่ 10 ถึง 11 กันยายน ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยารับทราบแล้วได้มีการประชุมผ่าน conference เตรียมรับมือให้จัดเตรียมสถานที่อพยพประชาชนอยู่ในพื้นที่ต่ำ เตรียมเรือท้องแบนที่จำเป็น และสั่งการย้ายศูนย์ส่วนหน้ารับมือน้ำท่วม จากจังหวัดสุโขทัยมาไว้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน ให้เตรียมรับมือเคลื่อนย้าย ยกสิ่งของหนีน้ำอยู่บนพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย



ที่ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี พบระดับน้ำแตะจุดสีเหลือง ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวัง เริ่มมีน้ำซึมผ่านท่อระบายน้ำเข้ามาบนผิวจราจร เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรี ได้เตรียมแนวกระสอบทรายป้องกันแล้ว นอกจากนี้ยังเร่งสูบน้ำออกจากท่อระบายน้ำป้องกันน้ำ จากแม่เจ้าพระยาไหลย้อนกลับมา ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำ เริ่มได้รับผลระทบจากน้ำที่เพิ่มขึ้นและน้ำทะเลหนุน



ส่วนปัญหาที่พบขณะนี้หากเรือด่วน ที่วิ่งในแม่น้ำด้วยความเร็ว โดยเฉพาะช่วงที่เรือแข่งกันมา ก็จะทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ ซัดเข้ามาบ้านเรือนและร้านค้าริมฝั่ง จนเกิดความเสียหายได้



ส่วนที่จังหวัดสิงห์บุรี ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอีก 30-50 เซนติเมตร บ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกเขตแนวพนังกั้นน้ำอยู่ภาวะเฝ้าระวัง ขณะที่เทศบาลเมืองสิงห์บุรี เตรียมความพร้อม ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ในพื้นที่เสี่ยง หากระดับน้ำสูงขึ้นและไหลเข้าท่อระบายน้ำ



ที่จังหวัดชัยนาท หลังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ทางด้านท้ายเขื่อนเพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงมาสมทบ โดยตรึงการระบายน้ำที่ 1,498 ลูกบาศก์ก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 3 เพื่อพร้อมรับน้ำเหนือ ที่จะลงมาสมทบอย่างต่อเนื่องตามแผนกรมชลประทาน ประกอบกับช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะมีฝนตกหนักปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว



ปัจจุบันที่ สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,507 ลูกบาศก์ก์เมตรต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.79 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 12.82 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 3.52 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,498 ลูกบาศก์ก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้นเริ่มเอ่อล้น เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ กรมชลประทานแจ้งเตือน 11 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด



ขณะที่ล่าสุด เมื่อ 15 นาฬิกา 50 นาทีวันนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย บันทึกภาพน้ำตกแม่สา และน้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่เกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก จึงประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ พร้อมแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำชุมชนและประชาชนใกล้เคียงรับทราบถึงสถานการณ์น้ำป่าในขณะนี้

คุณอาจสนใจ

Related News