ตร.ภาค4-ภาค5 แถลงสกัดจับแก๊งขนยานรก เผยยึดของกลางร่วม 13 ล้านเม็ด

ชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังมีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังภาคกลางอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรภาค 5 จับขบวนการลักลอบขนยาเสพติดได้จำนวนร่วม 13 ล้านเม็ด



การจับกุมผู้ต้องหารับจ้างลำเลียงยาเสพติดได้ 7 ล้านเม็ดครั้งนี้ เนื่องจากชุดจับกุมได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 4 ต.หนองเดิน อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ว่ารถจักรยานยนต์หายไป เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นในพื้นที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากริมตลิ่งแม่น้ำโขงประมาณ 500 เมตร พบรถยนต์กระบะสีเขียว 4ประตู บรรทุกสิ่งของเต็มท้ายรถ โดยไม่ดับเครื่องยนต์ คาดว่าคนขับได้วิ่งหนีไป ตำรวจสืบสวนภาค4 และสภ.บุ่งคล้า จึงสืบหาผู้ขับรถนำมา 7 ล้านเม็ด มาทิ้งไว้ กระทั่งทราบชื่อว่า นายธีรเดช อายุ 32 ปี จึงใช้เวลาติดตาม 12 ชั่วโมง ในวันเดียวกันจับกุมนายธีรเดชได้ ที่ บขส. ในอ.เมือง จ.อุดรธานี



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 แถลงว่าผู้ต้องหารับว่ารับงานผ่านช่องทางแมสเซนเจอร์ เฟซบุ๊ก ชื่อ "พารวย พารวย" โดยรับงานเป็นรถคุ้มกัน มีรถตู้ทึบอีกคันรับงานขนยา เพื่อไปส่งที่จ.พระนครศรีอยุธยา แต่รถตู้ยังมาไม่ถึง ชาวลาวจึงลำเลียงยาใส่ในรถกระบะก่อน ขณะกำลังจอดรถรอรถตู้ทึบ ตำรวจได้ไล่ติดตามมา ผู้ต้องหาได้ขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านขับหลบหนีไป แต่ตามจับได้ในที่สุด



ขณะที่ภาคเหนือ ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดได้ผู้ต้องหาจำนวน 6 คน พร้อมของกลาง 30 กระสอบ รวมยาบ้าทั้งสิ้น 6,000,000 เม็ด รถยนต์ที่ใช้ลำเลียง 2 คัน และรถจักรยายนที่ใช้ในการดูเส้นทางอีกจำนวน 1 คัน โดยการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติด จะขนยาบ้าจำนวนมาก เข้ามาทางชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านเข้ามาในพื้นที่ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าระวัง บนถนนเลียบชายแดนสายแม่สาย-เชียงแสน กระทั่งพบรถยนต์ จำนวน 2 คัน ขับมาจากทาง อำเภอแม่สาย มุ่งหน้าเข้าสู่เขต อำเภอเชียงแสน



แต่รถต้องสงสัยได้ขับเลี่ยงไปเส้นอื่น แล้วขับฝ่าจุดสกัดไปอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปทางเขตเทศบาล ตำบลเวียงเชียงแสน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำรถยนต์ออกไล่ติดตามจนถึงหมู่บ้านห้วยเกี๋ยง ใน อำเภอเชียงแสน แต่เนื่องจากเส้นทางในซอยหมู่บ้านซึ่งทางแคบ คนขับจึงจอดรถพากันวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่จับได้จำนวน 3 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามสกัดรถนำทางได้อีก1 คัน จับผู้ต้องหาได้2 คน บริเวณแยกไฟแดงศูนย์ราชการจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย และได้มีการขยายผลไปจับกุมผู้ประสานงานว่าจ้างลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ได้อีก 1 คน ได้ที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย



พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบรถที่พยายามหลบเลี่ยง ไม่เข้าด่านตรวจ 2 คัน พบกระบะ สีดำ ซึ่งพบภายหลังว่าเป็นรถสวมป้ายทะเบียน และรถกระบะอีก 1 คัน ทางหัวหน้าด่านตรวจเห็นผิดสังเกตจึงได้นำกำลังติดตาม แล้วมีชาย 3 คนวิ่งหลบหนีออกจากรถ หลังจับได้ทั้ง 6 คน พบว่าผู้ต้องหาเป็นชนเผ่า ในอ.เวียงแก่น รับสารภาพว่ามีการสั่งการจากประเทศเพื่อนบ้าน กับคนที่สั่งการในเชียงราย



ทั้งนี้ยังพบว่าในทีมงานม้งที่ร่วมกับผู้สั่งการได้ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยใช้เส้นทางจาก อำเภอแม่สาย ไป อำเภอเชียงแสน เข้าอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ไปยังส่วนกลาง ที่จังหวัดอ่างทอง จังหวัดนนทุรี โดยครั้งนี้จะไปส่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา