สังคม
'สมศักดิ์' ขอทุกฝ่ายใจกว้าง ปมสร้าง 'เขื่อนแก่งเสือเต้น' ด้านชาวบ้านชง 'สะเอียบโมเดล' แก้ปัญหาน้ำ
โดย panwilai_c
3 ก.ย. 2567
88 views
ความเคลื่อนไหวเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้น วันนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะนักการเมืองจากจังหวัดสุโขทัย เรียกร้องให้ผู้คัดค้านใจกว้าง รับฟังหน่วยงานกลางมาทำหน้าที่ศึกษาความเป็นไปได้ ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ไม่มีวาระเขื่อนแก่งเสือเต้น แต่รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เห็นว่าถึงเวลาที่จะยกเรื่องนี้มาคุยกัน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีที่มีการหยิบยกเรื่องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาในขณะนี้ว่า ในส่วนของรัฐบาลเห็นว่าถึงเวลาที่ควรจะหยิบยกมาพูดคุยกัน เพราะคนที่เดือดร้อนก็ต้องการ แต่เรื่องนี้มีความเห็นที่แตกต่างกัน ก็ต้องยอมรับ ซึ่งผลการพูดคุยเป็นอย่างไรก็ค่อยว่ากัน ส่วนการประชุม ครม.วันนี้ไม่มีวาระเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้น
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเสนอสร้างแก่งเสือเต้น ว่าไม่ควรจะมาวิพากษ์วิจารณ์ หน่วยงานของภาครัฐ แต่ควรหาผู้รู้มาตัดสิน ซึ่งตนได้บอกให้ สทนช.หาหน่วยงานกลาง เช่น ธนาคารโลก เพื่อวิเคราะห์ ต้องดูว่าต้นน้ำมีความเสียหาย เรื่องที่อยู่ที่กิน เช่น ในพื้นที่ สะเอียบ จังหวัดแพร่ ก็จะมีความรุนแรง เพราะเขารักถิ่นฐาน และมีความรู้สึกว่าได้รับผลกระทบเสียหาย แต่ระหว่างลำน้ำยม คนที่เสียหายที่สุด คือภาครัฐ เพราะต้องออกมาชดเชย รวมถึงประชาชนที่เห็นใจคนถูกน้ำท่วมก็เข้าไปช่วยเหลือ ในเรื่องของอาหาร
โดยเฉพาะจังหวัดสุโขทัย ได้รับการดูแลจากภาคประชาชนและจากภาครัฐเป็นจำนวนมาก จึงต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้าไปช่วยเหลือ แต่ทุกครั้งที่มีการพูดถึงเขื่อนแก่งเสือเต้น นายสมศักดิ์กล่าวว่าตนเองถูกเผาหุ่นทุกครั้ง
นายสมศักด์ กล่าวด้วยว่า ถ้าเขื่อนแก่งเสือเต้นผลิตไฟฟ้าได้ ซึ่งตามหลักการ เขื่อนแก่งเสือเต้นมีความเหมาะสมในการผลิตไฟฟ้าเพราะมีความสูงถึง 60 กว่าเมตร ซึ่งเมื่อน้ำตกลงมา จะมีแรง ที่จะสามารถผลิตกระไฟฟ้าได้มาก เมื่อนำไปขาย ก็สามารถแบ่งเงินให้คนในพื้นที่ได้ โดยให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็อาจจะเป็นแนวคิดใหม่แม้จะได้รับความเสียหายแต่ก็จะได้รับการชดเชยจากรายได้ตลอดชีวิตดังนั้นควรหันหน้ามาคุยกัน
เมื่อวานนี้ ทีมข่าว 3 มิติ ได้ลงพื้นที่สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ได้รับฟังเหตุผลว่า ทำไมชาวบ้าน จึงเดินหน้าคัดค้านการสร้างเขื่อนแห่งนี้ มายาวนานถึง 35 ปี จนรัฐบาลปัจจุบันประกาศจะรื้อโครงการมาพิจารณาใหม่ หรือแม้แต่โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่เปลี่ยนเป็นสองเขื่อน คือ เขื่อนยมบน และยมล่าง เพื่อเว้นชุมชนไม่ให้ถูกน้ำท่วม แต่เช้าบ้านก็ยังคัดค้านเขื่อนต่อ ด้วยเหตุผลที่ว่า แม้พวกเขาอาจไม่ถูกน้ำท่วม แต่ป่าสักหลายหมื่นไร่ ยังคงต้องถูกน้ำท่วมจากการสร้างเขื่อนอยู่ดี ซึ่งข่าว 3 มิติ ได้นำเสนอให้เห็นภาพผืนป่าสักกลางหุบเขาไปเมื่อวานนี้แล้ว วันนี้ ทีมข่าว 3 มิติ จึงได้ตั้งคำถามกับชาวบ้านว่า ไม่เห็นใจคนถูกน้ำท่วมหรือ คำตอบที่ได้คืออะไร
ชาวบ้านที่ ต.สะเอียบ ตอบคำถามนี้ด้วย สะเอียบโมเดล อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กตามชุมชน ที่ใช้กักเก็บน้ำที่ไหลจากภูเขา และน้ำฝน ที่เคยไหลลงลำน้ำสาขา แล้วไหลต่อลงแม่น้ำยมทั้งหมด ก็ไหลลงเฉพาะน้ำที่ล้นเท่านั้น
แกนนำชาวบ้านที่คัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นมาเกือบ 35 ปี คนนี้ นายเส็ง ขวัญยืน อดีตกำนัน ต.สะเอียบ ได้พาทีมข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ 1 ในโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ที่ขาวบ้านเรียกว่า อ่างขนมครก พร้อมทั้งยืนยันว่า เคยเสนอโครงการนี้ ให้เป็นทางออกแทนการสร้างเขื่อนกับ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว
ชาวบ้านที่สะเอียบ รุ่นต่อๆมา ยังได้พัฒนาโครงการ เก็บข้อมูลทำให้รู้ว่า หากที่ตำบลสะเอียบ สร้างอ่างเก็บน้ำขนมครก ได้ครบ 20 โครงการ จะสามารถเก็บน้ำไม่ให้ไหลลงลำน้ำยมได้ประมาณ ร้อยละ 10 ของการกักเก็บน้ำของเขื่อนแก่งเสือเต้น ซึ่งหากทำแบบสะเอียบโมเดล กันทั้ง 90 ตำบล ในทุกจังหวัดลุ่มน้ำยม จะสามารถกักเก็บน้ำ จาก 77 ลำน้ำสาขา ไม่ให้ไหลลงแม่น้ำยมได้มากกว่า การกักเก็บน้ำของเขื่อนที่รัฐบาลจะสร้าง
นอกจากข้อเสนอแทนการสร้างเขื่อน ด้วยการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กเก็บน้ำที่จะไหลลงน้ำยมไว้แล้ว ชาวบ้านที่สะเอียบ ยังมีข้อเสนอรวมกัน 14 ข้อเสนอ เพื่อการแก้ปัญหา ส่วนใหญ่เป็นข้อเสนอการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำแบบยั่งยืน