'อยุธยา' พื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภออระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น-เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มเป็น 1,400 ลบ.ม./วินาที

สถานการณ์น้ำในพืน้ที่ภาคกลางครับ วันนี้จังหวัดอยุธยามีรายงานว่าพื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนที่จังหวัดนนทบุรี กรมชลประทานเร่งซ่อมแนวป้องกันหน้าวัดเชิงเลนที่พังไปก่อนหน้านี้


สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ล่าสุดมีปริมาณน้ำเหนือไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ เมื่อเวลา 14.00 น. วัดได้ 1,506 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวขึ้น 15 เซนติเมตรในรอบ 12 ชั่วโมง ล่าสุดวัดได้ 16.27 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้เพิ่มอัตราการระบายน้ำจาก 1,300 ลบ.ม./วินาที ขึ้นไปที่ 1,400 ลบ.ม./วินาที เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รับมวลน้ำเหนือที่กำลังไหลบ่าลงมาสมทบ และลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวต่อเนื่องในรอบ 12 ชั่วโมง ล่าสุดวัดได้ 12.46 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งการคงอัตราการระบายน้ำในอัตรานี้ จะส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะยกตัวขึ้น 10-15 เซนติเมตรใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า บ้านเรือนในพื้นที่ดังกล่าวจึงควรยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศทางราชการอย่างใกล้ชิด


ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาน้ำท่วม ได้ขยายเป็นวงกว้างกิน 3 อำเภอ มีอำเภอเสนา ผักไห่ และอำเภอบางบาล โดยเฉพาะที่อำเภอบางบาลวันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำน้อย ไหลเข้าท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านจมน้ำหลายเส้น กระแสน้ำไหลทะลักอ้อมเข้าทางด้านหลังวัดตะกู หัวน้ำไหลมาลงบริเวณด้านข้างของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนวัดตะกู ขณะที่น้ำจากแม่น้ำน้อยยังทะลักท่วมชุมชนวัดอินทารามระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ถนนทางเชื่อมในหมู่บ้านจมน้ำทำให้การเข้าออกเริ่มเป็นไปอย่างยากลำบาก ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุอยู่เฝ้าบ้าน ต้องลอยคอออกมาเก็บของไว้บนที่สูงหนีน้ำอยู่บนที่ปลอดภัย ระบบการผลิตน้ำประปาของหมู่บ้านถูกน้ำท่วม ทำให้การผลิตน้ำอุปโภคบริโภคไม่ได้

ซึ่งนางสมทรง พันเจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้รถผลิตน้ำอุปโภคบริโภค เข้ามามาช่วยประชาชนบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นก่อน


ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการซ่อมแซมแนวเขื่อนป้องกันน้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดเชิงเลน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่พังลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นระยะทาง 75 เมตร ก่อนหน้านี้ทางกรมชลประทาน ได้ส่งทีมวิศวกรเข้ามาสำรวจตรวจสอบเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาแนวเขื่อนที่พัง โดยว่าจ้างผู้รับเหมาให้นำเสาเข็มปูนขนาดใหญ่ที่มีความยาวกว่า 20 เมตร มาตอกเป็นแนวเพื่อจะวางแผ่นชิปไพด์ แต่ด้วยอุปสรรคเรื่องน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนหน้านี้ ที่มีปริมาณน้อยทำให้ไม่สามารถนำครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าไปทำงานได้ จึงทำให้งานล่าช้าออกไป แต่หลังจากเริ่มมีมวลน้ำที่กำลังไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดนนทบุรี มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางกรมชลประทาน ได้มีการจัดทำแผนสอง โดยนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวป้องกันน้ำชั่วคราว ในระดับความสูงของน้ำเมื่อปี 2554 พร้อมจะนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ มาติดตั้งไว้คอยสูบน้ำออกกรณีน้ำล้นทะลักแนวกั้น คาดว่าอีกประมาณสองวันน่าจะวางเสร็จ