สังคม

เปิดกลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่งตัวเป็นตร. หลอกจับตัว นศ. เรียกค่าไถ่ 2 ล้านจากผู้ปกครอง

โดย panwilai_c

29 ส.ค. 2567

304 views

นักศึกษาแพทย์ชั้นปี 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต ได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศไทยแล้ว หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล่อลวงไปเรียกค่าไถ่ 2 ล้านบาทจากผู้ปกครอง ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดเป็น วิธีการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่อยู่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ปลอมเป็นตำรวจ วิดีโอคอลมาหลอก เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เหยื่อกลัว



แม้จะมีกระแสข่าวว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หยุดทำการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ ชายหนุ่มจากจังหวัดกาญจนบุรีเสียชีวิตปริศนา บริเวณชั้นล่างของตึก 25 ชั้น ซึ่งเป็น อาคารที่จีนเทาได้เช่าเป็นสำนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลายชั้น แต่ขณะนี้ได้ กลับมาเปิดหลอกลวงตามปกติ



โดยล่าสุด ได้มุ่งเป้าไปที่ นักเรียนโรงเรียนเอกชนหรือ นักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดัง เพื่อหลอกไปเรียกค่าไถ่ จากผู้ปกครอง ซึ่งกรณี ล่าสุดที่ตำรวจชัยภูมิประสานกับตำรวจ สระแก้ว ช่วยเหลือนักศึกษาแพทย์ชั้นปี 1 ของมหาวิทยาลัย แห่งหนึ่งย่านรังสิต กลับมาได้



โดยพฤติการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะแบ่งหน้าที่กันทำงานสองทีม ทีมแรกอ้างเป็นตำรวจวีดีโอคอลแต่งชุดตำรวจโทรไปหานักศึกษา สร้างสถานการณ์ว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในคดียาเสพติด กำลังถูกตามล่าจากหัวหน้าแก๊งให้ ตัดขาดการติดต่อกับ ครอบครัว ต้องไปซ่อนตัว ในที่ปลอดภัย โดยตำรวจซึ่งที่แท้จริงแล้วเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จะคุ้มครองแต่ต้องทำตามคำสั่ง ไปซ่อนตัว ที่ปอยเปต เมื่อเหยื่อเชื่อเดินทางไปอยู่ฝั่งปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทีมสองก็จะโทรหาผู้ปกครอง ซึ่งได้ซักถามประวัติของเหยื่อไว้แล้ว เพื่อเรียกค่าไถ่โดยอ้างว่าลูกชายถูก แก๊ง ค้ายาจับ และหากไม่จ่ายเงินค่าไถ่จะถูกตัดอวัยวะ



โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะ ฉวยโอกาส เข้าควบคุมโทรศัพท์ของเหยื่อ ขณะที่อ้างเป็นตำรวจขอตรวจข้อมูล และให้โอนเงิน ตามบัญชีที่ตำรวจปลอมสั่งให้โอน โดย สัปดาห์ก่อนมีนักศึกษาอย่างน้อยสองคน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ โทรศัพท์ มาข่มขู่ว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินคดียาเสพติดข้ามชาติ และ ต้องเดินทางไปเช่าโรงแรมในปอยเปต เพื่อซ่อนตัวตามคำสั่งของตำรวจปลอม และอีกทีมก็โทรศัพท์มาข่มขู่เรียกเงินห้าล้านบาทจากผู้ปกครองเพื่อไถ่ตัว



โดยให้นักศึกษาใช้สีทาตัวเองว่าถูกทำร้าย โดยการ สร้างสถานการณ์ให้เหยื่อกลัว คาดว่าเป็นการสร้างเรื่อง ของจีนเทา ที่จะกำหนดเรื่องในการหลอกลวงเหยื่อ หลังเกิดเหตุบ่อยครั้ง ทางการไทยได้ประสานกับ เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา เพื่อร่วมมือไม่ให้คนไทย ถูกหลอกไปเรียกค่าไถ่ และผู้ปกครองต้องโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกันตำรวจสอบสวนกลางโดยตำรวจปอศ ได้ปิดช่องทางการฟอกเงินของธุรกิจสีเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจับสองสามี ภรรยา ที่เปิดให้แลกสินทรัพย์ สกุลเงินUSDT โดยจับนายอรรณพ และนางสาววันวิสาร์ สามีภรรยา ซึ่งมีเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า5700 ล้านบาท โดยพบที่มาของเงินจำนวนมหาศาลจากธุรกิจสีเทาแทบทั้งสิ้น

คุณอาจสนใจ

Related News