สถานการณ์น้ำท่วม อ.วังชิ้น จ.แพร่ ยังไม่คลี่คลาย ชาวบ้านวอนภาครัฐเยียวยาหลังน้ำลด

สถานการณ์น้ำท่วมในลุ่มน้ำยม ที่ยังวิกฤต ทั้งในจังหวัดแพร่ โดยเฉพาะที่อำเภอวังชิ้น ยังมีปริมาณน้ำมากที่ยังท่วมหลายพื้นที่ ซึ่งมวลน้ำก้อนนี้จะไหลไปยังจังหวัดสุโขทัย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุโขทัย เปิดเผยว่าขณะนี้ได้บริหารจัดการระบายน้ำจากแม่น้ำยมไปตามระบบที่มีทั้งหมดแล้ว แต่ปริมาณน้ำที่มีมาก อาจส่งผลให้ท่วมในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะจุดที่คันกั้นน้ำยมไม่แข็งแรง จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อม


จากจุดนี้เราลงเรือ ปภ.กับทีม อปพร.อ.วังชิ้น จ.แพร่ ไปยังบ้านหาดรั่ว หมู่ 6 ต.วังชิ้น ซึ่งน้ำท่วมถนนถูกตัดขาด ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร น้ำสูงตั้งแต่ 2 เมตร ถึง 4 เมตร บริเวณติดแม่น้ำยม ทีมอปพร.บอกว่า ระดับน้ำสูงเท่าน้ำท่วมปี 2538 และน้อยกว่าปี 2554 มาเพียงกว่า 1 เมตร เท่านั้น น้ำเริ่มท่วมมา 3 วันแล้ว ยังไม่ลดลง จึงต้องใช้เรือขนสิ่งของบริจาค อาหารและน้ำดื่มไปในหมู่บ้าน ซึ่งระหว่างทางเราพบชาวบ้านมาจากบ้านสุเม่น อ.ศรีสัชนาชัย ใช้แกลอนว่ายน้ำมา กว่า 4 กิโลเมตร เพื่อไปยังอำเภอวังชิ้น เพราะไม่มีรถ ซึ่งที่บ้านสุเม่นน้ำท่วมสูงมากด้วย


เมื่อมาถึงที่บ้านหาดรั่ว พบชาวบ้านตั้งเต้นท์รับสิ่งของบริจาค ซึ่งน้ำท่วมมาตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม แม้บริเวณนี้จะน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้ถือว่าหนัก และคาดว่าอีก 2-3 วันน้ำถึงจะลด เพราะยังมีน้ำเหนือต้องผ่านอำเภอวังชิ้นอีกมาก


สำหรับบ้านหาดรั่ว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม มวลน้ำในแม่น้ำยมที่มาจากพื้นที่ต้นน้ำ ซึ่งมีน้ำป่าไหลหลาก ตั้งแต่อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา จนมาถึงจังหวัดแพร่ที่มีน้ำท่วมหนัก และมวลน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำยมที่อ.วังชิ้น จ.แพร่ สูงกว่า 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเกินที่แม่น้ำยมจะรับได้ถึง 3 เท่า ซึ่งพบว่าน้ำท่วมที่บ้านหาดรั่ว ต.วังชิ้น แผ่วงกว้างออกจากแม่น้ำยม 3-4 กิโลเมตร จึงแจ้งเตือนไปยังชาวจังหวัดสุโขทัย อย่าเพิ่งชะล่าใจ ให้เตรียมรับมือกับมวลน้ำจากอำเภอวังชิ้นด้วย


ชาวบ้านหาดรั่ว ตำบลวังชิ้น เปิดเผยว่าความเดือดร้อน นอกจากบ้านเรือนจะเสียหายจากน้ำท่วม เพราะไม่คิดว่าจะท่วมสูงแล้ว ยังมีสวนส้มเขียวหวาน ซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจของที่นี่ น่าจะเสียหายทั้งหมด จึงขอให้ภาครัฐหามาตรการเยียวยาและช่วยเหลือหลังน้ำลดด้วย


จากแม่น้ำยมที่ตำบลวังชิ้น อำเภอวงชิ้น จังหวัดแพร่ พบว่า หลายหมู่บ้านริมน้ำยม ยังคงมีน้ำท่วม ต่อเนื่องมายังอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย


ต่อเนื่องมาถึงอำเภอสวรรคโลก ซึ่งน้ำปริ่มตลิ่ง บางจุดที่คันกั้นน้ำเปราะบาง ไม่แข็ง เช่นที่วัดหนองไขว้ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายต้องเร่งนำกระสอบทรายมาป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมชุมชนและต่อเนื่องไปยังเขตเมือง ซึ่งผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุโขทัย ยอมรับว่ามวลน้ำในแม่น้ำยมที่มีมากจากจังหวัดแพร่ ทำให้สถานการณ์ในแม่น้ำยมถือว่าหนัก ต้องรับมือกับความเสี่ยงที่คันกั้นน้ำจะพังได้ เนื่องจากขณะนี้ทางกรมชลประทานได้ใช้ระดับการจัดการระบายน้ำแม่น้ำยมทุกช่องทางที่มีแล้ว แต่อาจไม่สามารถรองรับมวลน้ำที่มีมากได้


การช่วยกันวางแนวป้องกันในจุดที่คันกั้นน้ำไม่แข็งแรง จึงจำเป็นต้องทำเพื่อลดความเสียหาย โดยปัจจุบันน้ำผ่านอำเภอศรีสัชนาลัยเข้าสู่จังหวัดสุโขทัย 1,548 ลบ.ม./วินาที ทำให้พื้นที่อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสำโรง และอำเภอเมืองระดับน้ำจะสูงขึ้น แต่ระดับน้ำยมที่ผ่านตัวเมืองยังต่ำกว่าตลิ่ง


ซึ่งจุดที่เปราะบางอย่างเช่นที่เทศาลตำบลศรีสำโรง คันดินกั้นน้ำพัง ความกว้างกว่า 4 เมตร มวลน้ำเข้าท่วมบ้านชาวบ้านริมน้ำ และสวนเกษตรทันที จึงต้องเร่งน้ำบิ๊กแบ็คมากั้นเส้นทางน้ำ ไม่ให้กระทบไปในเขตเมือง


ชาวบ้านเล่าว่าคันดินกั้นน้ำแตกในช่วงตีสาม ยอมรัว่าปีนี้ได้ทำแนวกันสูงขึ้น แต่รับมวลน้ำไม่ไหว จึงต้องยอมให้น้ำท่วมบ้าน ซึ่งน้ำปีนี้ในจุดนี้ถือว่าหนักกว่าปี2554


ส่วนการระบายน้ำจากแม่น้ำยมไปยังแม่น้ำน่าน ผ่าน ประตูระบายน้ำหกบาท มีการเปิดประตูระบายน้ำเต็มศักยภาพที่ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นหนึ่งเส้นทางในการบริหารจัดการแม่น้ำยม ซึ่งมวลน้ำที่มาก จะระบายไปยังพื้นที่แก้มลิงที่ตำบลปากพระ อำเภอเมืองสุโขทัย ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมลดลงด้วย


สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้หลายหน่วยงานได้บูรณาการในการลงพื้นที่จัดทำข้อมูลน้ำประกอบการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน เช่นทีมจัดการภัยพิบัติ ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า ลงพื้นที่นำโดรนดาวเทียมบินสำรวจพื้นที่เพื่อค้นหาจุดเปราะบางและเส้นทางน้ำ ซึ่งจากสถานการณ์น้ำเหนือที่ท่วมในลุ่มน้ำยม พบว่ามีการบริหารจัดตามศักยภาพ และจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องยังไม่รุนแรงเหมือนปี 2554