ศาลรับฟ้องคดีสลายชุมนุมตากใบ เอาผิด 7 จำเลย ญาติผู้เสียชีวิตร่ำไห้ ชี้สัญญาณดี

ศาลจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งรับฟ้อง เจ้าหน้าที่รัฐ 7 ราย ในข้อหาฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าและกักขังหน่วงเหนี่ยว จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2547 ตามที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 48 รายฟ้องร้อง แต่ยังไม่ออกหมายจับ โดยออกหมายเรียกนัดมาสอบคำให้การในวันที่ 12 กันยายน ทนายความ เห็นว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต น้ำตาไหลด้วยความยินดีที่มองเห็นความยุติธรรม หลังรอคอยมา 20 ปี ซึ่งหากจำเลยมาแสดงตัว จะไม่กังวลว่าคดีจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้



นางสาวไซนง ซู น้ำตาไหลด้วยความยินดี ที่ศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำสั่งรับฟ้องคดีตากใบ ทำให้เธอมีความหวังที่จะคืนความยุติธรรมให้กับพ่อ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตากใบ เมื่อ 20 ปีก่อน



ไซนง ซู ในวัย 40 ปี สูญเสียพ่อซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้เธอต้องออกมาทำงานหาเลี้ยงน้อง 7 คน แน่นอนว่าแม้จะมีการได้รับเงินเยียวยา แต่เงินเทียบไม่ได้กับลมหายใจ



เช่นเดียวกับฟารีดาห์ โต๊ะเดห์ ในวัย 72 ปี มาร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องรัฐ 9 ราย ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ความยุติธรรมขั้นต้นวันนี้จึงเป็นความหวังที่รอคอย



สำหรับคดีนี้ศาลจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งรับฟ้อง จำเลย 7 คน โดยเห็นว่าคดีนี้มีมูลตามฐานความผิด มาตรา288 ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และมาตรา 310 เป็นการกระทำการหน่วงเหนี่ยวกักขัง จนเป็นเหตุใฟ้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถือเป็นจุดเริ่มต้นในกระบวนการยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต 85 ราย ทั้งที่หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ 6 ราย ที่โรงพยาบาล 1 ราย และการลำเลียงไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร 78 ราย ซึ่งถูกนำตัวจับมือไพล่หลังให้นอนคว่ำนอนซ้อนกันในรถบรรทุก จนเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ



ทนายความ เปิดเผยว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำมายืนยันต่อศาลว่ามีการกระทำจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ทำให้ศาลรับว่าคดีมีมูลจึงมีคำสั่งรับฟ้อง ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ แม้ใช้เวลาเกือบ 20 ปีถึงสามารถเข้าสู่กระวนการยุติธรรมได้ โดยพยานสำคัญเป็นโจทก์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ทั้งถูกยิง และถูกลำเลียงในรถทหาร ถูกมัดมือไพล่หลัง นอนคว่ำในชั้นที่ 2 จากคนนอนเรียงกัน 5 ชั้น จนเกือบขาดอากาศหายใจ เมื่อฟื้นมาได้ นายมะรีกี ดอเล๊าะ ต้องกลายเป็นคนพิการทั้งแขนและขา



ความยุติธรรมที่ได้รับในวันนี้แม้ยังไม่สิ้นสุด แต่เป็นสิ่งที่มะรีกี ดีใจที่จะทวงความยุติธรรมให้ตัวเองและผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งทนายความคาดหวังว่า จำเลยทั้ง 7 คน จะมาตามนัดของศาล เพื่อให้การพิจารณาคดีเริ่มต้นได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอายุความ 20 ปีที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 25 ตุลาคม นี้



นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เห็นว่า การรับฟ้องของศาลเป็นสัญญานที่ดีต่อความยุติธรรมตากใบ ได้ไปต่อ จึงอยากเห็นผู้เกี่ยวข้องพิสูจน์ความจริง รวมถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่หนึ่งในจำเลยปัจจุบันเป็น สส.พรรคเพื่อไทย



ขณะที่นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ยินดีกับผู้เสียหายที่แม้ความยุติธรรมจะล่าช้า แต่หวังว่าจะได้รับการนับหนึ่งใหม่ และอยากเห็นเจตจำนงทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วย



ขณะที่องค์การต่อต้านการทรมานโลก OMCT ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ทางการไทยดำเนินการอย่างเด็ดขาด เอาผิดผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สังหารหมู่ คืนความยุติธรรมและชดเชยเยียวยาให้กับผู้เสียหายและครอบครัวในคดีตากใบ