สังคม
ภาคเหนืออ่วม! หลายจังหวัดระดับน้ำยังสูง จิสด้าเผยภาพความเสียหาย ท่วมขังแล้ว 387,626 ไร่
โดย panwilai_c
23 ส.ค. 2567
64 views
สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคเหนือ ยังวิกฤต แม้มูลนิธิและเจ้าหน้าที่จัดกำลังเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็เผชิญอุปสรรค คือน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดเข้าไปช่วยเหลือได้ช้า ขณะที่จังหวัดแพร่ ปริมาณน้ำระดับสูงสุดที่ท่วมเขตเทศบาลเมืองแพร่ กำลังลดระดับลง แต่พื้นที่ต่อไปที่ต้องรับมือ คืออำเภอสูงเม่น
เขตเทศบาลเมืองแพร่ เป็นหนึ่งในหลายจุดที่ถูกน้ำจากแม่น้ำยม หลากท่วมตลอดวันนี้ระดับบางพื้นที่สูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตรครึ่ง
นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ระบุว่าพื้นที่ในเขตตัวเมืองแพร่หรือพื้นที่เศรษฐกิจ ถูกน้ำท่วมประมาณร้อยละ 25 คิดเป็น 1 ใน 4 ส่วนของพื้นที่
และแม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ถูกน้ำท่วม จะยังอยู่ในระดับที่อยู่อาศัยได้ แต่สถานที่ราชการทั้งศาลากลางจังหวัด ส่วนราชการอีกหลายแห่ง และโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ก็มีถูกน้ำท่วม บางพื้นที่ต้องปิดชั่วคราว
และคาดว่าน้ำที่ท่วมพื้นที่เขตอำเภอเมืองแพร่จะเริ่มดีขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำก้อนใหญ่หรือระดับสุงสุดได้ผ่านไปแล้ว ตั้งแต่ 8 นาฬิกาวันนี้ และขณะนี้อยู่ในช่วงท้าย ของมวลน้ำก้อนใหญ่ จากนี้จะเริ่มลดระดับลง
อย่างไรก็ตาม จุดที่จะต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดต่อไปคืออำเภอสูงเม่น ซึ่งจะเป็นพื้นที่รับน้ำต่อจากนี้
ขณะนี้ จังหวัดแพร่ได้ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือประชาชน บริเวณลานวัฒนธรรม เพื่อระดมกำลังพลทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกำลังทหารจาก มณฑลทหารบกที่ 35 และทีมแพทย์ทหาร จากโรงพยาพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์ รวมกว่า 180 นาย ไปช่วยเหลือ
นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมือง แพร่ ระบุว่าจุดที่หนักที่สุดในเขตอำเภอเมือง คือตำบลป่าแมต ซึ่งขณะนี้น้ำท่วมทั้งตำบล 15 หมู่บ้าน บางพื้นที่ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ตลอดวันนี้จึงต้องจัดเรือออกไปรับคนที่ติดค้างในบ้าน ทั้งโดยการสำรวจและการรับแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ ระบุว่ามีพื้นที่ถูกน้ำท่วม 5 อำเภอ คืออำเภอเมืองแพร่/ร้องกวาง /สอง / หนองม่วงไข่ และสูงเม่น ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 101 หมู่บ้าน 6 ชุมชน มีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบเกือบ 400 ครัวเรือ
ที่จังหวัดเชียงราย ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ เช่นที่บ้านป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล น้ำท่วมหมู่บ้าน 3 วันแล้ว โดยเป็นน้ำที่ไหลมาจากดอยงาว ดอยพญาพิภักดิ์ และมวลน้ำจากแม่น้ำอิง ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม และขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำอิง ก็ยังทรงตัวในระดับสูง
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจจังหวัดน่าน เมื่อ 5โมงเย็นที่ผ่านมา ระดับน้ำที่หลากท่วมได้ลดระดับลงแล้วประมาณ 30-50 เซนติเมตร บ้านเรือนที่น้ำท่วมไม่สูงมาก เริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนแล้ว
ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน มีแนวโน้มลดระดับลง ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 8 เมตร 25 เซนติเมตร ลดลงเฉลี่ยะชั่วโมงละ 5 เซนติเมตร บางจุดระดับน้ำต่ำกว่าแนวพนังกั้นน้ำแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่รอบนอกของอำเภอ เมือง และอำเภอเวียงสา ยังมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง
สำหรับที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งจะเป็นพื้นที่ถัดไปที่จะรับน้ำจากแม่น้ำยม ขณะนี้แต่ละหน่วยงานได้เตรียมรับมือทั้งการทำแนวกระสอบทราย การสำรวจจุดเสี่ยงที่อาจเป็นจุดที่น้ำทะลักเข้าท่วม ทั้งในเขตอำเภอเมือง และศรีสำโรง
ขณะที่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมโดยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม Sentinel-1A ของวันที่ 23 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลา 06. นาฬิกา 16 นาที พบน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่บางส่วนของภาคเหนือในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 201,776 ไร่ / พะเยา 120,599 ไร่ / สุโขทัย 51,142 ไร่ และแพร่ 14,109 ไร่ รวมพื้นที่ความเสียหายประมาณ 387,626 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่การเกษตร พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลักและสายรอง รวมถึงชุมชนที่อยู่อาศัยและเส้นทางคมนาคมบางส่วน
ขณะนี้ GISTDA ได้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนในการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน และการติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าวันพรุ่งนี้จะลงพื้นที่จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน โดยระบุว่าเป็นการลงไปในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประสานข้อมูลกับสส.ในพื้นที่เป็นหลัก เนื่องจากยังยังไม่สามารถสั่งการ หรือมอบภารกิจใดๆต่อข้าราชการได้ จนกว่าจะมีการถวายสัตย์ปฎิญาณและแถลงนโยบายต่อสภาฯ ดังนั้นจึงเป็นการไปฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นห่วงคนในพื้นที่
ส่วนภาครัฐบาล ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม ที่จังหวัดเชียงราย ก็จะแยกกันอย่างชัดเจน