จับร้าน 'บุหรี่ไฟฟ้า' เปิดข้างโรงเรียน ลอบขายให้เด็ก พบเคยถูกจับแล้ว ไม่เข็ด กลับมาเปิดอีก

ตำรวจปคบ.จับร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าข้างสถานศึกษา หลังจากมีผู้ปกครอง เข้าร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าบุตรหลาน อาจจะถูกให้ออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะถูกจับได้ว่า แอบสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่มเพื่อนๆ ที่ไปหาซื้อมาจากร้านค้าข้างโรงเรียน ที่ลักลอบขายให้กับเด็กๆ โดยง่าย และไม่มีการจำกัดอายุของผู้ซื้อ



หญิงเจ้าของร้านที่ขายบุหรี่ เร่งรีบหยิบบุหรี่ไฟฟ้าตามที่ลูกค้าวัยเยาว์คนนี้สั่งทันที โดยไม่มองว่า ลูกค้าที่กำลังยื่นเงินให้นั้นสมควรที่เธอจะขายบุหรี่ไฟฟ้าให้หรือไม่



การขายบุหรี่ไฟฟ้าของหญิงเจ้าของร้านอยู่ในสายตาของลูกค้าวัยเยาว์อีก 2 คน ที่ยืนคอยอยู่ก่อนหน้า



ที่สำคัญ 1 ในนั้น ใส่ชุดนักเรียนด้วย ภาพที่ปรากฏขัดแย้งกับข้อความที่ทางร้านเขียนแปะไว้ที่หน้าประตูทางเข้าอย่างชัดเจน ว่าชุดนักเรียน นักศึกษาห้ามเข้า ร้านบุหรี่ไฟฟ้าแห่งนี้อยู่ห่างจากรั้วโรงเรียนประมาณ 200 เมตรเท่านั้น และขายอย่างเปิดเผย



คลิปวิดีโอนี้ ถือเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า มีการขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กๆในพื้นที่อ.ศรีมหาโพธิ์จริง ตามที่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนมัธยมต้นวัย 12 ปีคนหนึ่ง ร้องกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังพบว่า เงินในบัญชีของหลานหายไปถึง 6,000 บาทในช่วงเวลาที่เพิ่งจะเข้าเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนแห่งนี้



ชุดสืบสวน ตำรวจ ปคบ.เฝ้าดูความเคลื่อนไหวอยู่หน้าร้านเป้าหมายที่อ.ศรีมหาโพธิ์ ก่อนที่ช่วงนักเรียนเลิก จึงบุกเข้าร้านทันที



ปรากฏในตู้และแผงโชว์ เต็มไปด้วยบุหรี่ไฟฟ้าชนิดต่างๆจำนวนมากตามภาพที่สายถูกบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ ตุ๊กตาตัวการ์ตูน นี้คือเคสใส่เพื่อปกปิดบุหรี่ไฟฟ้า



นี่คือ สมุดบันทึกที่มีตัวเลย และเส้นขีด บอกจำนวน น่าเชื่อว่า ตัวเลขคือราคาขายบุหรี่ ส่วนเส้นขีดคือ ยอดขาย เจ้าของอ้างว่า เป็นสมุดบันทึกขายน้ำดื่ม



ระหว่าง ตำรวจ ปคบ.กำลังตรวจยึด ชายคนนี้อ้างว่าเขาเป็นเจ้าของตัวจริง ตำรวจ จึงพาเจ้าของร้าน และบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง เข้ากรุงเทพฯเพื่อดำเนินคดี



นางปวีณา หงสกุล ประมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้ากำลังแพร่ราดในกลุ่มเด็กนักเรียน ต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะได้รับการร้องเรียนว่า หลายพื้นที่เปิดติดกับสถานศึกษา ส่วนโรงเรียนเองต้องใส่ใจกับปัญหานี้ด้วย



สำหรับร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าแห่งนี้เคยถูกจับมาแล้ว และกลับมาเปิดใหม่ ซึ่งร้านนี้อยู่ห่างจาก โรงพยาบาลประมาณ 50 เมตร ห่างจากโรงเรียนประมาณ 200 เมตรเท่านั้น