'ธรรมนัส' ลั่น "เอาอยู่" ปัญหาปลาหมอคางดำ ชาวบ้านบอกแทบไม่เหลือแล้ว 'ณัฐชา' ลั่น ตรงข้ามความจริง

กรณีปลาหมอคางดำ หลังจากเมื่อวานนี้ รัฐมนตรีฯกระทรวงเกษตร ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกมาบอกว่า จะมีการรายงานผลสอบสวนต้นตอปลาหมอคางดำของกรมประมง ให้กับ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบในวันนี้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ออกมาจากฝ่ายรัฐบาล ทำให้นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการฯปลาหมอคางดำ ออกมาทวงถามความคืบหน้าจาก ร.อ.ธรรมนัส



เมื่อวานนี้ มีนักข่าวถามเรื่องนี้กับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งต่อมาได้ให้สัมภาษณ์พร้อมกับยืนยันว่า "ปลาหมอคางดำผมเอาอยู่" ตอนนี้ชาวบ้านก็บ่นแล้วว่าเริ่มหาปลาหมอคางดำยาก และยังบอกด้วยว่า "ที่จริงแล้วเรื่องปลาหมอคางดำ ตัวเขาเป็นคนที่จุดประเด็นก่อนตั้งแต่มารับหน้าที่แล้ว และก็ทำร่วมกับน้อง ๆ หลายคน เพียงแต่ไม่พูดมาก ยืนยันว่า ยังไงผมก็เอาอยู่" ย้อนกลับไปฟังบางช่วงจาก ร.อ.ธรรมนัส ที่ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวานนี้



ล่าสุดวันนี้ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการ ศึกษาสาเหตุและปัญหาปลาหมอคางดำ ออกมาทวงผลสอบจาก ร.อ.ธรรมนัส อีกครั้ง นายณัฐชา บอกว่า ก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการค้นหาความจริง โดยขีดเส้นไว้ 7 วัน (ตั้งเมื่อ 19 ก.ค.) เเต่ตอนนี้ผ่านมาเกือบครึ่งเดือนเรื่องก็ยังเงียบ ทั้งที่มีข้อมูลบ่งชี้เต็มไปหมดว่ามีการนำเข้ามาโดยเอกชนรายใด เเละ DNA ก็บ่งชี้มีต้นตอเดียวกัน เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องนี้ยังทำให้กระจ่างเพื่อหาต้นตอวิกฤตมารับผิดชอบไม่ได้ ก็ยากจะเชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัส จะรับมือเรื่องนี้ได้



ซึ่งนายณัฐชา ตั้งข้อสังเกตในประเด็นนี้ การที่ออกมาสื่อสารด้วยท่าที ที่บอกว่าเป็นสถานการณ์เล็ก ๆ รับมือได้ เป็นเพราะกำลังปกป้อง หรือออกรับแทนใคร หรือเอกชนรายใดหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ช่วยทำความจริงให้กระจ่างตามที่เคยรับปากด้วย



ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัส บอกเมื่อวานว่า "ชาวบ้านเริ่มบ่นว่าหายากแล้วนะ ปลาหมอคางดำแทบไม่เหลือแล้ว ประเด็นนี้ "นายณัฐชา" ให้ความเห็นว่า สถานการณ์จริงที่ประชาชนกำลังเผชิญมันไม่เหมือนกับที่พูด เพราะตอนนี้บ่อกุ้ง-บ่อปูเสียหายกันหมด จับขึ้นมาในบ่อก็มีแต่ปลาหมอคางดำ



ส่วนกรณีที่กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันว่า ได้ตั้งงบประมาณ เพื่อรับซื้อปลาหมอคางดำในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ล่าสุด มีเสียงจากผู้ประกอบการเเพปลาบางส่วนที่สมุทรปราการ ออกมาสะท้อนว่า มาตรการรับซื้อปลาฯอาจจะไม่คุ้มทุน



โดยมองว่าขั้นตอนเยอะ จุดนำส่งก็อยู่ไกล ไม่มีแรงงานช่วยเหลือ เมื่อมาคำนวณเเล้วจะเหลือส่วนต่างราคาเพียง 5 บาท อีกทั้งยังต้องสำรองจ่ายเงินเพื่อรับซื้อไปก่อน ทำให้ไม่มีแรงจูงใจในการลงทุน จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่องนี้ ก่อนที่ผู้ประกอบการจะถอนตัว