สังคม
สั่งปิดปรับปรุง โรงงานในฉะเชิงเทรา หลอมขยะอิเลกทรอนิกส์ไม่ได้รับอนุญาต ทำแหล่งน้ำปนเปื้อน
1 ส.ค. 2567
657 views
เมื่อวานนี้ (31 ก.ค. 67) ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราพิพากษาคดีแพ่งให้บริษัท ทีเอชเอช โมลีโพรเสสซิ่ง ชดใช้เงินกว่า 1,770 ล้านบาท เพื่อให้ภาครัฐใช้บำบัดฟื้นฟูดิน น้ำใต้ดิน และน้ำในอ่างเก็บ น้ำลุ่มน้ำโจนที่ 16 ที่ปนเปื้อนสารเคมีของบริษัทนี้ แต่กว่าคดีจะถึงที่สุด และกว่าจะฟื้นฟูแล้วเสร็จต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี วิธีที่ดีที่สุดในกรณี จึงเป็นการเข้มงวดป้องกันไม่ให้โรงงานเช่นนี้ทำผิด
ล่าสุดกรมโรงงานอุตสาหกรรม ยังพบว่ามีโรงงานหลอมเหล็กอีกแห่งหนึ่ง ในอำเภอสนามชัยเขต แจ้งประกอบกิจการมาถึง 4 ปีแล้ว แต่ขยะอิเลกทรอนิกส์ ที่เป็นวัตถุดิบไม่เคยได้รับอนุญาตเลยสักครั้ง ทำให้ต้องสั่งปิดโรงงานนี้ทันที เพื่อให้ปรับปรุงแก้ไข และหากไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จะถูกสั่งปิดถาวร
ภาพมุมสูงนี้เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของโรงงานชื่อ ซี ที สตีล เป็นโรงงานที่มีเจ้าของเป็นชาวจีน ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับอนุญาตตั้งกิจการ โรงงาน ประเภท 106 เพื่อประกอบกิจการหลอมหล่อเศษโลหะจากเศษอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ โดยโรงงานนี้ แจ้งประกอบการตั้งแต่ปี 2563 หรือ 4 ปีที่แล้ว เป็นต้นมา
แต่น่าแปลกใจอย่างยิ่งว่าวัตถุดิบที่นำมาเข้าเตาหลอม ไม่เคยแจ้งขออนุญาตจากกรมโรงงานแม้แต่ครั้งเดียวเพราะตามเงื่อนไขการอนุญาตตั้งโรงงาน วัตถุดิบที่จะเข้าสู่กระบวนการ ต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น นั่นหมายความว่าวัตถุดิบที่กองอยู่บนลานทั้งหมด และที่ผ่านการหลอมไปแล้วตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับอนุญาตเลยและไม่รู้ด้วยว่า ต้อนทางของวัตถุดิบที่จะหลอมมาจากที่ใด
โรงงานของชาวจีนรายนี้ มีเคื่องจักรถึง 5 เครื่อง มีแรงงานต่างด้าว 16 คน และแจ้งประกอบการมา 4 ปี แต่กลับบอกไม่ได้ว่าวัตถุดิบนำมาจากที่ใด จึงนับว่าเป็นปริศนาอย่างยิ่ง และถูกตั้งคำามว่าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศโดยการสำแดงเท็จหรือไม่ หรือมาจากสถานประกอบการเถื่อนที่ใด ที่ถูกสั่งปิดไปแล้ว แล้วลักลอบส่งมาหลอมต่อที่นี่หรือไม่ เพราะสังเกตุได้จากกองถ่านหิน ที่นำมาเป็นเชื้อเพลิงจำนวนมาก
บ่อน้ำ 2 บ่อนี้ ก็อาจผิดเงื่อนไขตั้งแต่แรก เจ้าหน้าที่บอกว่าในใบอนุญาต 106 แจ้งว่า จะมีน้ำเสียเฉพาะจากระดับดักจับไอกรด จากควันการหลอม หรือเวส สครับเบอร์ แต่กลับ มีบ่อน้ำเสียบนเปื้อนสารเคมีเพิ่มมา 2 บ่อ
นักธรณีวิทยาชำนาญการ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล บอกว่าได้นำตัวอย่างน้ำในบ่อในบ่อโรงงาน น้ำในบ่อชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง และน้ำในชั้นน้ำบาดาลไปตรวจวิเคราะห์ ก็พบว่ามีการปนเปื้อนของสารเคมีแล้ว
ที่จริงแล้ว อธิบดีกรมโรงงาน เพิ่งพาคณะฯ มาตรวจที่นี่ เมื่อ16 กรกฎาคมที่ผ่านมา และสั่งให้ย้ายวัตถุดิบที่อยู่กลางแจ้งไปอยู่ใต้โรงเรือนหรือคลุมไว้ ให้เสนอแผนแก้ปัญหา น้ำเสียและสารเคมีที่รั่วไหลลงแหล่งน้ำ และให้หยุดประกอบกิจการก่อน แต่ตำรวจ ปทส.พบหลักฐานว่าโรงงานยังลักลอบประกอบกิจการต่อเนื่อง จนปล่อยควันพิษออกสู่อากาศ โดยที่โรงงานนี้ไม่บุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมเลย
อธิบดีกรมโรงานฯจึงสั่งผูกมัดประทับตรา ห้ามเดินเครื่องจักร ทั้ง 5 เครื่องเด็ดขาด และให้ทำแผนฟืน้ฟูภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการ จะมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และมีมาตรการเด็ดขาด เพื่อไม่ให้กระทบหนักเหมือนกรณีโรงงาน ทีเอชเอช ที่ศาลเพิ่งตัดสินไปเมื่อวานนี้
ในขณะที่ ที่มาของวัตถุดิบในโรงงานนี้กำลังเป็นที่สงสัย ข่าว 3 มิติ มีข้อมูลว่า ในอุตสาหกรรมลักษณะที่ลักลอบทำอย่างผิดกฎหมาย มักจะมีเอเย่นต์คนไทย ที่คอยรับวัตถุดิบจากผู้นำรายใหญ่นำเข้าโดยวิธีผิดปกติ เช่นสำแดงเท็จ แล้วกระจายไปให้ผู้ประกอบการในเครือข่าย เพื่อหล่อหลอม แล้วนำวัตถุดิบที่ได้กลับไปขาย และหากข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริง เท่ากับว่าจะมีกิจการที่เป็นเครือข่ายของกลุ่มนี้อีกมาก