เร่งล่าแก๊งเจ้าหนี้โหด รุมทำร้ายยาย 72 ตร.ยันไม่ได้ล่าช้า เผยรู้ตัวเกือบครบแล้ว

กรณีหญิงวัย 72 ปี ร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ยกพวก-บุกมารุมทำร้ายร่างกายถึงที่พัก เพราะโมโหที่จ่ายดอกเบี้ยล่าช้า เหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา วงจรปิดในละเเวกที่เกิดเหตุ บันทึกพฤติกรรมชายกลุ่มนี้ได้ชัดเจน ล่าสุด ตำรวจสน.โชคชัย ยันยันว่ารู้ตัวผู้เหตุเเล้ว อยู่ระหว่างออกติดตามไล่ล่า



เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง คืนวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา วงจรปิดบริเวณหน้าคอนโดเเห่งหนึ่ง ย่านโชคชัย 4 บันทึกพฤติกรรมแก๊งทวงหนี้นอกระบบ 4 คน บุกมารุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงอายุ 72 ปี หน้าคอนโดแห่งหนึ่งย่านโชคชัย 4



ก่อนเกิดเหตุชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ ขับรถเก๋งสีขาวมาจอดหน้าคอนโด จากนั้นเดินตามไปหาผู้เสียหายที่ห้องพัก เพื่อให้พาไปหาลูกหนี้รายอื่น ๆ หลังคนกลุ่มนี้ บังคับให้ผู้เสียหายจะต้องเป็นคนรวบรวมเงินมาส่งให้ กระทั่งเริ่มมีปากเสียง และถูกทำร้ายตามที่ปรากฏในวงจรปิด



จากเหตุความรุนเเรงที่เกิดขึ้น ทำให้ช่วงบ่ายวันนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พาผู้เสียหาย เข้าไปดูที่เกิดเหตุ



ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักกับนายอ๊อฟ หนึ่งในผู้ก่อเหตุมาได้ 6 ปี แต่เพิ่งมาติดต่อเพื่อขอกู้เงินกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เธอให้ข้อมูลว่าที่ต้องไปเอาเงิน ก็เพราะนายอ๊อฟ เป็นคนเสนอให้กู้



เธอเล่าว่า กู้เงินกับนายอ๊อฟหลายครั้ง จนล่าสุดยอดเงินต้นอยู่ที่ 10,000 บาท ต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 500 บาท และยังต้องคอยรวบรวมเงินจากลูกหนี้คนอื่น ๆ มาให้เจ้าหนี้รายนี้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 คน รวมเป็นเงิน 1,200 บาท เท่ากับว่าเธอจะต้องนำเงินส่งให้กับเจ้าหนี้ วันละ 1,700 บาท



จนกระทั่งก่อนวันเกิดเหตุ ได้โอนเงินในส่วนของเธอไปให้เจ้าหนี้ 400 บาท ซึ่งเท่ากับว่ายังค้างหนี้อยู่ 100 บาท ส่วนลูกหนี้รายอื่นยังไม่โอนเงินมาให้ ตอนนั้นคิดว่าหากลูกหนี้รายอื่นโอนเงินมาให้แล้ว ก็จะโอนเงินไปให้พร้อมกัน แต่ปรากฏว่ากลุ่มเจ้าหนี้ไม่พอใจ จึงยกพวกมาหาที่คอนโด และทำร้ายร่างกาย



ต่อมา นายเอกภพ ได้พาผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ สน.โชคชัย โดยมี พลตำรวจตรีธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 และ พันตำรวจเอก เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับการสน.โชคชัย มาพูดคุยกับผู้เสียหาย



พลตำรวจตรีธนันท์ธร ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ทำคดีล่าช้า มีการสืบหาตัวผู้กระทำผิด ตั้งแต่วันที่ผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว แต่การจะออกหมายจับผู้ต้องหาจะต้องมีการสอบปากคำผู้เสียหายให้ละเอียด ขณะนี้พิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิดได้แล้ว 3 คนจากทั้งหมด 4 คน ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน เร่งติดตามตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีแล้ว



จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า 1 ใน 3 คนที่ก่อเหตุครั้งนี้ เคยกระทำความผิดเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ในพื้นที่ สน.มีนบุรี