สังคม

ฉลุย! สภาฯ รับร่าง พ.ร.บ.งบฯ 1.22 แสนล้าน เดินหน้า 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

โดย panwilai_c

17 ก.ค. 2567

59 views

วันนี้ ได้มีการประชุมสภาวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการ แล้วตั้งกรรมมาธิการขึ้นมาศึกษา



ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอเพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ได้ใช้เวลาอภิปรายกว่า 10 ชั่วโมง ที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการ 297 เสียง ขณะที่ 164 เสียง ไม่รับหลักการ



จากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้นมาศึกษาจำนวน 32 คน โดยมีสัดส่วน ประกอบไปด้วย สัดส่วน คณะรัฐมนตรี จำนวน 8 คน สส. จำนวน 24 คน ตามสัดส่วนพรรคการเมือง ดังนี้ พรรคเพื่อไทย 7คน พรรคก้าวไกล 7 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคพลังพลังประชารัฐ 2คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 2 คน พรรคประชาธิปัตย์ 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1คน และพรรคประชาชาติ 1 คน กำหนดระยะเวลาแปรญัตติ 2 วัน สำหรับระยะเวลาพิจารณาพิจารณาของ กมธ.วิสามัญฯ จำนวน 5 วัน และนำมาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาวาระ 2-3 ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการลงมติเห็นชอบดังกล่าวนั้น พบว่า สส.ฝั่งรัฐบาลที่มี 314 เสียงนั้น ลงมติไม่ครบ ขาดการออกเสียงถึง 15 คน



ก่อนการลงมติดังกล่าว ตลอดวันนี้ ได้มีการอภิปรายในสภา โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงหลักการและเหตุผลระบุว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการดำรงชีพ สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ ควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ



รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อันเป็นกรณีที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน โดยไม่สามารถรองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้ จึงต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 122,000 ล้านบาท



ด้านนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านว่า ไม่รู้โครงการนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ ซึ่งวงเงินมีการเปลี่ยนแปลงตลอด งบปี 68 ที่เราเพิ่งผ่านวาระหนึ่งไม่นาน กู้เพิ่ม 152,700 ล้านบาท ยังต้องกลับไปบริหารจัดการภายในงบประมาณปี 68 อีก 132,300 ล้านบาท วันนี้รัฐบาลมาขอกู้เพิ่ม 112,000 ล้านบาท และไปหารายได้อื่นมาอีก 10,000 ล้านบาท นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญที่ปีนี้จะมีการกู้เพิ่มอีก 112,000 ล้านบาท เท่ากับว่างบประมาณของ ปี 67 จะมีการกู้เพื่อชดเชยขาดดุลทั้งสิ้น 805,000 ล้านบาท ถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์อยู่ดี หากไม่นับของ ปี 68



ช่วงหนึ่งของการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายว่า นายกรัฐมนตรีโพสต์ลง X ว่าวันที่ 1 สิงหาคม ทั้งประชาชนและร้านค้าสามารถลงทะเบียนทั้งประเทศได้ ซึ่งระบบชำระเงินนั้น ยังไม่ได้ผู้รับจ้าง จึงอยากจะถามว่าระบบการลงทะเบียนสำหรับประชาชนนั้นที่จะต้องมีการตรวจสอบเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ ดำเนินการพร้อมแล้วตามคำแถลงของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ทำภายใต้โครงการใด ใช้แหล่งงบประมาณใด ใช้บริษัทใดเป็นผู้รับจ้าง ทุกวันนี้เรายังไม่มีความชัดเจนในส่วนนี้



นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงว่า การลงทะเบียนแบ่งกลุ่มการลงทะเบียนเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกประชาชนผู้มีสมาร์ทโฟน เริ่มวันที่ 1 สิงหาคม กลุ่มสองคือกลุ่มประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือมีในระบบอนาล็อก และสามกลุ่มร้านค้าจะเปิดลงทะเบียนหลังจากวันที่ 1 สิงหาคม เรามีกรอบเวลาเพียงพอ ดังนั้น การปิดลงทะเบียนจึงมีการเหลื่อมกันในแต่ละกลุ่ม

คุณอาจสนใจ

Related News