ยึดเหล้า-บุหรี่เถื่อน กลางหาดใหญ่ มูลค่ากว่า 100 ล้าน พบใช้กระบะทึบตบตาตร.แต่ไม่รอด

ปัญหาเหล้าบุหรี่เถื่อนกลางเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ที่เคยมีผู้ประกอบการ ซึ่งนำเข้าเเละเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พยายามร้องเรียนมาตลอด หลังจากครั้งก่อนถูกชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครองบุกเข้าไปทลาย

ล่าสุด พบว่าเครือข่ายนี้กลับมาอีกเเล้ว แต่ครั้งนี้มีการปรับยุทธวิธีรับมือเจ้าหน้าที่ โดยการดัดเเปลงรถตู้ หรือรถกระบะตู้ทึบ-ทำเป็นโกดังเคลื่อนที่ เเต่ก็ไม่พ้นสายตาเจ้าหน้าที่ บ่ายวันนี้กระจายกำลังเข้าตรวจค้น-จับกุมพร้อมกัน 7 จุด ได้ตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งเหล้าเเละบุหรี่ที่ค้นเจอ หลายยี่ห้อเป็นของที่ทำปลอมขึ้นมา เพื่อขายในราคาถูก



นี่เป็นภาพที่ทีมสายลับชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง บันทึกได้ขณะซุ่มดูความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนำเข้าเหล้า-บุหรี่เถื่อนหนีภาษี จากภาพจะเห็นว่าคนกลุ่มนี้ พยายามหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ด้วยการนำสินค้าขนถ่ายใส่รถตู้ หรือบางคันเป็นรถกระบะตู้ทึบ ทำเป็นคลังสินค้าเคลื่อนที่ โดยอาศัยช่วงที่คนไม่พลุกพล่านขับรถตระเวนส่งของให้ตามร้านค้าต่าง ๆ ในเมืองหาดใหญ่ เเละพื้นที่ใกล้เคียง



นอกจากบนรถตู้ ทีมสายลับยังพบเเหล่งที่ซ่อนสินค้า ซึ่งมีทั้งบนตึกเเละอาคารสูง มีคนงานเเละคนคอยเฝ้าตลอดเวลา บางกลุ่มดัดเเปลงลานจอดรถโรงเเรมร้างทำเป็นโกดัง ที่ภายในมีสินค้าเก็บซุกซ่อนไว้จำนวนมาก



จนกระทั่งบ่ายวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีระกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงฯ สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ "สิงห์สยบควัน" ปูพรมกวาดล้างบุหรี่เถื่อนกลางเมืองหาดใหญ่พร้อมกัน 7 จุด ประกอบด้วย



ร้านขายบุหรี่เถื่อนที่เปิดเป็นร้านขายของชำบังหน้า 3 จุด / ลานจอดรถที่ใช้เป็นคลังบุหรี่เถื่อน 2 จุด / ร้านขนส่งพัสดุเอกชน 1 จุด เเละโกดังเก็บบุหรี่เถื่อน 1 จุด



การสืบสวนขยายผล พบรถหลายคันเป็นเครือข่ายเดียวกันกับรถที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ศรชลจับกุม ซึ่งครั้งนั้นมีพฤติกรรมลักลอบขนบุหรี่เถื่อนล็อตใหญ่ กว่า 1,000 ลัง ซุกในเรือประมง พื้นที่อำเภอจะนะ



ที่น่าสนใจก็คือ วิธีการของเครือข่ายนี้ จะไม่ใช้การสต็อกของไว้ภายในร้านหรือโกดังอีกเเล้ว แต่จะเป็นในรูปแบบคลังสินค้าเคลื่อนที่ โดยเก็บของทั้งหมดไว้ในรถ ก่อนจะอาศัยความมืดในการลักลอบขนย้ายบุหรี่เถื่อนกระจายส่งไปยังร้านทุกวัน



เบื้องต้น พบของกลางเป็นบุหรี่เถื่อน สุราเถื่อน และบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนกว่า 300 ลัง โดยจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 5 ราย ประเมินมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นพบว่า กว่า 100 ล้านบาท



นอกจากนี้ ยังตรวจพบในสินค้าเถื่อน ทั้งเหล้า-บุหรี่ปลอม ปะปนอยู่ในลังเก็บสินค้าจำนวนมาก



นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ฝากถึงประชาชน ที่คิดจะซื้อสินค้าเถื่อนในราคาถูกกว่าท้องตลาด จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะไม่รู้ว่ากระบวนการผลิตเป็นอย่างไร มีสารอื่นใดผสมเจือปนอยู่บ้างหรือไม่ และที่ประชาชนให้การสนับสนุนโดยการซื้อบุหรี่ปลอมนั้น จะทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการค้ายาสูบที่เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นจำนวนมหาศาล



พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การที่เครือข่ายนี้ยังเคลื่อนไหวต่อเนื่อง มีใครอยู่เบื้องหลังผลประโยชน์จากสินค้าเถื่อนเหล่านี้ด้วยหรือไม่