นายกฯ ชี้ปมที่ป่าทับลาน เป็นมติรบ.ที่แล้ว ต้องยึดตามกม.

ในแง่ของภาคราชการวันนี้ ก็มีความเคลื่อนไหว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าพร้อมจะรับฟัง ทุกความเห็นจากภาคประชาชน ต่อกรณีการจัดทำแผนที่แนวเขตใหม่ และเชื่อว่าข้อมูล ที่ได้จะทำให้คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ พิจารณา อย่างรอบคอบ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ก็เปิดเผยต่อเรื่องนี้ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่คณะรัฐมนตรีรัฐบาลที่แล้ว มีมติไว้



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่ามติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบแนวเขตแผนที่ปี 2543 ให้เป็นแนวเขตใหม่ของอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นมติคณะรัฐมนตรีรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งคณะกรรมการ คทช.ก็จะนำไปดำเนินการตามนั้น และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยยืนยันยันว่า ไม่มีแนวคิดที่จะยก เลิก มติ ครม.เมื่อปีที่แล้วดังกล่าว



ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ระบุว่าข้อมูลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็น จะทำให้คณะกรรมการอุทยานฯนำไปพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อน ที่ชาวบ้านทำกินอยู่ก่อนแล้วก็ควรจะได้ประโยชน์ และเน้นกลุ่มชาวบ้านเป็นหลัก เพื่อจะแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินได้



ส่วนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นปัญหามานาน 40 ปี ซึ่งยอมรับว่าเป็นข้อบกพร่องของกรมป่าไม้ในอดีต ที่ประกาศพื้นที่อุทยานฯ ทับซ้อนที่ดินทำกินชาวบ้าน จึงมีข้อเรียกร้องให้กันพื้นที่ตรงนี้ออกจากเขตอุทยาน นำมาซึ่งการสำรวจพื้นที่ในปี 2543 กำหนดแนวเขตขึ้นใหม่ แต่ยังไม่สิ้นสุดตาม กฎหมายทำให้พื้นที่ยังมีสภาพป่า



ขั้นตอนหลังจากนี้ อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ และประชาชนทั่วประเทศผ่านออนไลน์ แล้วจะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานฯ ก็ย้ำว่าแนวทางยึดความถูกต้อง และฟังเสียงทั้งหมดทุกประเด็น เพราะในพื้นที่กว่า 2 แสนไร่ดังกล่าว มีผู้อยู่อาศัยอย่างน้อย 3 กลุ่ม



อีกด้านหนึ่งร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ระบุว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องดำเนินการให้แยกที่ดินแล้วให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะส่งมอบให้ ส.ป.ก.นำไปจัดสรรให้ราษฎรทำกิน หากกระทรวงทรัพย์ฯไม่ดำเนินการนั้น ก็จะมีความผิดตามาตรา 157 อย่างไรก็ตาม ร้อยเอกธรรมนัส เห็นด้วยที่จะแยกแยะ ระหว่างชาวบ้านที่ควรจะได้สิทธิ์เต็มที่บนผืนดิน กับผู้กระทำผิดที่มีกว่า 400 คดี



อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งประกาศเมื่อปี 2524 มีเนื้อที่ 1 ล้าน 4 แสนไร่ ตามแนวเขตสีฟ้านี้ ที่ครอบคลุมรอยต่อระหว่างปราจีนบุรี และนครราชสีมา



อย่างไรก็ตาม การประกาศเขตของอุทยานแห่งชาติทับลาน มีบางส่วน ที่ไปทับซ้อนกับเขต ส.ป.ก.อยู่แล้วประมาณ 5 หมื่น 8 พันไร่ ตามเส้นสีฟ้า ต่อมา กรมอุทยานฯพบว่า ส.ป.ก.ไปดำเนินการจัดสรรที่ดิน นอกเขตที่ส.ป.ก.ได้รับมา อีก 2 พื้นที่ประมาณ 1 หมื่นไร่ รวมพื้นที่ทับซ้อนประมาณ 7 หมื่น 8 พันไร่ //นอกจากนี้ ยังมีบางพื้นที่ซึ่งเป็นที่หมู่บ้านจัดตั้งตามนโยบายความมั่นคง ตั้งแต่ปี 2520 เป็นต้นมา



กระทั่ง ปี 2543 มีการปรับปรุงแนวเขตใหม่อีกครั้ง โดยครั้งนี้จะทำให้พื้นที่อุทยานฯลดลงประมาณ 2 แสน 6 หมื่นไร่ และคณะรัฐมนตรี เมื่อปีเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เห็นชอบให้สคทช.ใช้แนวเขตนี้ เป็นแนวสำหรับยึดถือของโครงการ One map



ภาพมุมสูงที่เห็นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านไทยสามัคคี ที่อยู่ริมถนนสาย 304 ไปจนถึงบ้านสุขสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกกัน ออกจากเขตอุทยานฯ นอกจากนี้ยังมีอีกมากกว่า 80 หมู่บ้าน ที่สำรวจพบว่าจะถูกกันออกตามแผนที่ใหม่ โดยจะเห็นว่าส่วนใหญ่มีสภาพเป็นชุมชนบ้านเรือน



อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานฯ ก็มีข้อมูลอีกชุดหนึ่งว่าในกลุ่มชุมชนที่อยู่ก่อน หรือแม้แต่ผู้ได้สิทธิ์ สปก.ทั้งในเขตเดิม และสปก.ที่ขยาย เพิ่มอีกมานั้น พบว่ามีที่พัก รีสอร์ท ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้าไปลงทุน จนทำให้ถูกดำเนินคดีดังกล่าว



ซึ่งข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่า มีความจำเป็นที่ต้องแยกแยะให้ชัดระหว่างชาวบ้านที่จะได้ประโยชน์ กับกลุ่มทุนที่ถูกดำเนินคดี