เปิดปฏิบัติการจับนักธุรกิจไทยร่วมแก๊งคอลฯ ทำแอปฯปลอม ตุ๋นเหยื่อโอนเงิน

คนไทยยังตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์สูญเงินจำนวนมาก ล่าสุดตำรวจสอบสวนกลางได้เปิดปฏิบัติการ Lock star แกะรอย จนพบว่าหัวหน้าขบวนการใหญ่นอกจากจีนเทา แล้วยังมีคนไทย ที่เบื้องหน้าเป็นระดับนักธุรกิจ และภรรยาซึ่งเป็นไฮโซสาวร่วมอยู่ในขบวนการ คิดแอปพลิเคชันปลอมและแอบอ้างคนมีชื่อเสียง ในการหลอกผู้เสียหายซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน วันนี้ตำรวจจับกุมได้เกือบทั้งขบวนการ



เป็นอีก 1 จีนเทา ที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเมืองไทยมานาน เพราะเชื่อว่าไม่มีใครทราบเบื้องหลัง ที่มาเงินจำนวนมหาศาล นำมาใช้จ่ายดุจมหาเศรษฐี บินไปเที่ยวต่างประเทศเป็นว่าเล่น แต่แล้วชีวิตเบื้องหน้าที่ในคราบนักธุรกิจ ก็ถูกกระชากหน้ากากออก โดยตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือปอท. เข้าจับกุมนายเกา อายุ 29 ปี ขณะเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ



จากการตรวจค้นบ้านหรู นายเกาซื้อด้วยเงินสด 12 ล้านบาท ในรูปแบบบริษัทข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเต็มไปด้วยแบรนด์เนม พบเงินสดถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก และพบนาฬิกาหรู หลากหลายยี่ห้อ นับทรัพย์สินมูลค่ารวม 30 ล้านบาท แน่นอนว่าจีนเทา ไม่สามารถหลอกผู้เสียหายชาวไทยได้ คอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ จึงมีคนไทยทั้งชายและหญิง อีก 4 คน ร่วมขบวนการ



ตำรวจ ปอท.และหนุมาน เข้าจับกุมนายศิวา อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของบอสชาวไทย ที่บ้านพักในจ.นนทบุรี โดยนายศิวามีหน้าที่หิ้วเงินสด หลังจากเทขายเหรียญดิจิทัลมาเป็นเงินบาท ให้กับบอสของแก๊งคอลเซ็นเตอร์



เมื่อพบว่าคนไทยร่วมกันเป็นหัวหน้าขบวนการร่วมกับจีนเทาด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งให้พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการ ตร.ปอท.สืบสวนจนทราบว่า



บอสคนไทยกำลังเดินทางไปที่เขตเศรษฐกิจพิเศษคิงโรมัน ฝั่งลาว เจ้าหน้าที่จึงไปสะกดรอยตามอยู่เกือบสัปดาห์กระทั่งจับได้



โดยนายธนโชติ อายุ 33 ปี ซึ่งสื่อสารภาษาจีนได้ จึงสบคบกับนายเกา สร้างแอปปลอมชื่อ TIDEX เหยื่อ 1 รายโอนไป 17 ครั้ง สูญเงิน 22 ล้าน 4 แสนบาท และเงินก็ถูกฟอกไปในกระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนตัว จนแทบจะไม่ถึงตัวจีนเทาและนายธนโชติ และภรรยา



แต่ตำรวจปอท.ได้แกะรอยจนพบเส้นเงินโยงถึงกัน โดยมีการปรึกษาหารือระหว่างนายเกา จีนเทา กับธนโชติถึงการคิดคอนเทนท์ ในการสร้างเพจหลอกเหยื่อต่างๆ



ปฏิบัติการ Lockstar จับผู้ต้องหาได้ 6 ราย ทั้งหมดถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำ โดยนายเกาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าที่ร่ำรวยเพราะกู้เงินจากภรรยามาใช้



ส่วนนายธนโชติและไฮโซน้ำแข็งเบื้องหน้าเป็นนักธุรกิจ ที่ประสบผลสำเร็จ โดยนำเงินมาลงทุนในธุรกิจเครื่องสำอาง แต่จากพยานหลักฐานและได้ปริปากบอกว่าร่วมกับจีนเทา เป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเหยื่อคนไทยจริง