ปล่อยตัวแล้ว 12 ชาวโมร็อกโก-เยเมน ถูกหลอกทำงานแก๊งคอลฯ ส่งคัดกรองเหยื่อที่แม่สอด

ขบวนการค้ามนุษย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังเดินหน้าหลอกลวงเหยื่อชาวต่างชาติ ไปบังคับทำงานในแหล่งอาชญากรรมชายแดน โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเอกอัครราชฑูตโมร็อกโกประจำประเทศไทยได้ทำหนังสือขอความช่วยไทย ให้ช่วยเหลือชาวโมร็อกโกราว 150 คน ที่ถูกหลอกไปทำงานโดยไม่เต็มใจ



ปรากฏว่า ล่าสุดวันนี้ทหารของกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA (Democratic Karen Buddhist Army ) ได้ส่งตัวชาวโมร็อกโก 11 คน และชาวเยเมน 1 คน ให้กับทหารไทย ที่บริเวณลำน้ำเมย จุดที่ไหลผ่าน ต.ช่องแคบ จังหวัดตาก



ความคืบหน้ากรณีที่ชาวโมร็อกโก ถูกขบวนการจีนเทาหลอกลวงเข้าไปทำงานในแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย เขตเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงกันข้าม ต.ช่องแคบ อ.พบพระ และ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยในช่วงสายวันนี้ ทหารของกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA ได้ส่งตัวชาวโมร็อกโกและชาวเยเมน รวม 12 คน ให้กับทหารไทยแล้ว



ทั้งหมดได้ถูกนำตัวไปที่ ตม.แม่สอด เพื่อคัดกรอง และส่งตัวไปอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเตรียมนำสู่กระบวนการ NRM (National Referral Mechanism) หรือกลไกการส่งต่อระดับชาติ เพื่อคัดแยกผู้ที่อาจเสียหายจากการค้ามนุษย์หรือการบังคับใช้แรงงานหรือบริการต่อไป



ก่อนหน้านี้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้ประสานทาง กองทัพบก โดยแจ้งว่า ทาง เอกอัครราชทูตชาวโมร็อกโก ประจำกรุงเทพมหานคร ได้ทำหนังขอความช่วยเหลือให้กับชาวชาวโมร็อกโก ที่ติดอยู่กับทาง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวนมากว่า 150 คน แต่ที่มีการยืนยัน คือ จำนวน 21 คน ที่บริเวณบ่อนคาสิโน บริเวณช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก



ทางกองทัพบก ได้รับเรื่องดังกล่าว จึงได้สอบถามไปทาง มูลนิธิต่างๆ และ NGOs จนกระทั่งได้ช่องทางติดต่อกับผู้เสียหายที่อยู่ภายในบ่อนคาสิโนดังกล่าว โดยทางกองทัพบก ได้ประสานและสอบถามกับทางผู้เสียหายถึงรายละเอียดสถานที่ และที่พักอาศัยว่าอยู่บริเวณใดของอาคาร เมื่อทราบรายละเอียดทั้งหมด จึงนั้นได้นำข้อมูลไป พูดคุยกับทางกองกำลัง DKBA โดยมี พ.อ.ซาอ่อง ผู้บังคับการ กองบังคับการ ยุทธวิธี และ พล.จ.ส่วยวะ ผบ.พล.น.3 กองกำลัง DKBA ให้ช่วยเข้าไปเจรจากับทาง เจ้าของคาสิโนดังกล่าว



จนทราบว่ามีชาวโมร็อกโก ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศเดียวกันหลอกให้มาทำงานมีจำนวน 21 คน ระหว่างการเจรจามี ครอบครัวของชาวโมร็อกโกนำเงินมาไถ่ตัว ออกไปแล้วจำนวน 7 คน จึงได้รับการปล่อยตัวออกไปก่อน และมีอีก 2 ต้องการที่จะไม่กลับออกมา ทำให้ มีคนที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมา 12 คน