ปส.ออกหมายจับเอเยนต์ยาเสพติดเพิ่มกว่า 100 ราย รางวัลนำจับ 1 แสน-1 ล้านบาท

ตำรวจหลายหน่วยได้เร่งสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศ หลังองค์การสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องยาเสพติดพบว่ายาเสพติดถูกนำเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งสาเหตุมาจากผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ได้หลบหนีไปเป็นเอเยนต์ ผู้สั่งการอยู่ตามแนวชายแดน จ้างทีมเครือข่ายนำเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง



นี่คือผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญ และเป็นรายล่าสุด ที่ถูกประกาศออกหมายจับ จากทางการไทยเพิ่มเติมจากกว่า 100 ราย ที่เคยถูกออกหมายจับไปแล้ว โดยมีรางวัลนำจับจาก ป.ป.ส. ตั้งแต่ 1 แสน-1 ล้านบาท ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งสิ้น พอถูกออกหมายจับก็หนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเอเยนต์คอยสั่งการส่งยาเข้ามาในไทย เพราะมีเครือข่ายอยู่ในมือ ทำให้ไปแข่งกันจ้างทีมลำเลียงยาเข้ามาในประเทศ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ปริมาณยาตาม



รายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมของสหประชาชาติ หรือ UNODC รายงานว่าไทย ทำสถิตินิวไฮด์พบยานำเข้าจำนวนสูงกว่า 98 ตัน



ขณะที่วันนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้แถลงว่าในรอบ 9 เดือน ยึดยาได้กว่า 800 ล้านเม็ด ไอกว่า 15,000 กก. ยึดอายัดทรัพย์ได้กว่า 9 พันล้านบาท ซึ่งตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ปิดล้อมเครือข่ายที่ส่งทางออนไลน์ ในชื่อเครือข่ายเขางู จ.ราชบุรี ซึ่งขายตามสถานบันเทิง อีกทั้งยังทลายเครือข่ายนักบินชายแดน ในพื้นที่อ.เวียงแหง เชียงดาว ของจ.เชียงใหม่ ออกหมายจับได้ 12 หมาย พร้อมยึดทรัพย์ทั้งบ้านที่ดิน รถยนต์มาตรวจสอบ



ด้านพล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติดระบุว่า ปฏิบัติการทลาย 100 เครือข่าย ขณะนี้ทลายไป 995 เครือข่ายแล้ว จึงเป็นสาเหตุ เอเย่นต์ที่หนีหมายจับไปแย่งกันส่งยาเข้ามาจากเมียนมาและลาว



ขณะที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 6 ได้ติดตามเครือข่าย อาท ต่ำเอี่ยว โดยพบกระบะตู้ทึบต้องสงสัย น่าจะลำเลียงยาเสพติดเข้า มาพักเก็บไว้ที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จึงเข้าไปตรวจค้น พบยาบ้า ซุกซ่อนไว้ถึง13 ล้านเม็ด พบผู้ต้องหา 1 ราย ที่หนีไม่ทันพร้อมอาวุธ ปืนพกสั้น 1 กระบอกและเครื่องกระสุนตรวจยึดรถยนต์จำนวน 2 คันและรถจักรยานไฟฟ้า 1 คันรวมทรัพย์สินมูลค่า 2 ล้านบาท



โดยจากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทำหน้าที่ขับรถ กระจาย ขายต่อไปยังพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพ อ้างว่าไม่มีงานทำ จึงได้ชักชวนเพื่อนรวม 3 คนมารับจ้างลำเลียงยา ส่วนอีก 2 ราย ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถนำหลบหนีไปได้



หลังจากรัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ และเร่งแก้ไขปัญหาให้ได้ภายใน3เดือน ซึ่งนำร่อง 2 จังหวัดหากประสบผลสำเร็จก็จะขยายไปจังหวัดอื่นต่อไป