สังคม

กฎษฎีกา ชี้ 'ชาญ' ว่าที่นายก อบจ.ปทุมธานี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

โดย panwilai_c

2 ก.ค. 2567

29 views

ความเคลื่อนไหวหลังนายชาญ พวงเพ็ชร์ ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี แต่มีกรณีปัญหาตามว่าต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่หรือไม่หากเข้ารับตำแหน่ง เพราะมีคดีค้างเก่าที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตต่อหน้าที่ในช่วงดำรงตำแหน่งก่อนหน้านี้ และคดีถูกศาลประทับรับฟ้อง ซึ่งความเห็นของกฤษฎีกา ระบุชัดว่า นายชาญจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่



นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณี นายชาญ พวงเพ็ชร ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี แต่มีคดีเดิม ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับคดีจัดซื้อถุงยังชีพ เมื่อปี 2555 ขณะที่นายชาญเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี และปัจจุบันศาลศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งประทับรับฟ้องไว้แล้ว จึงมีประเด็นว่าจะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่หลังการ เข้ารับตำแหน่งใหม่หรือไม่ เพราะอาจมองว่าเป็นการดำรงตำแหน่งคนละครั้งกัน



นายปกรณ์ อธิบายว่าตามหลักกฎหมาย นายชาญจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยอ้างถึงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เคยวินิจฉัยเรื่องนี้ไว้ และวัตถุประสงค์ ที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจาก ป.ป.ช.มีคำสั่งชี้มูล ซึ่งถึงแม้ระหว่างนั้น พ้นตำแหน่งไปแล้วและถูกเลือกตั้งให้กลับเข้ามาใหม่ ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการยุ่งเหยิงกับกรณีที่ผ่านมา และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น



ซึ่งการต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นี้ไม่ต้องขอคำสั่งศาลใหม่ เพราะเป็นผลทางกฎหมาย ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่แทนคาดว่าจะเป็นปลัดจังหวัด



ทั้งนี้ มีรายงานว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อแจ้งเรื่องที่นายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.แล้ว โดยอ้างถึงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1486/2565



ครั้งนั้นกระทรวงมหาดไทยได้ทำหนังสือลับถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อปรึกษากรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นที่เคยถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดและได้พ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งกลับมาใหม่



ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งความเห็นกลับมา ใจความสำคัญ 2 ข้อ คือ 1. ผู้ถูกกล่าวหาที่ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบประทับรับฟ้องคดีไว้ ที่ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งใหม่ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่



และ 2 ผู้กำกับดูแล ซึ่งก็คือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไม่ต้องมีคำสั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่นที่ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่อีก แต่ต้องดูแลให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายอย่างเคร่งครัด



ด้านนาย นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ.2555 ปัจจุบัน และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.ปทุมธานี มีคำสั่งประทับฟ้องคดีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยาน



ซึ่งตามหลักแล้วตามกฎหมายในคดีอาญา เมื่อศาลประทับรับฟ้องแล้ว ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพียงแต่กฎหมายไม่ได้บอกว่าให้ใครเป็นคนแจ้ง ดังนั้น ในทางปฏิบัติ ป.ป.ช. จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ทราบว่าในเรื่องนี้ได้มีการชี้มูลความผิดและศาลประทับรับฟ้อง



ส่วนคดีอื่นของนายชาญที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. นั้น เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่าจะต้องไปตรวจสอบว่ามีคดีการทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย และคดีอื่นๆ อีกหรือไม่



ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการหยุดปฎิบัติหน้าที่ของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ต้องรอคำสั่งศาลไม่ใช่เป็นอัตโนมัติตามความเห็นกฤษฎีกา

คุณอาจสนใจ

Related News