สังคม

จับผู้บริหาร รร.ดังสงขลา ปลอมเอกสารโกงเงินอุดหนุนจากรัฐ

โดย panwilai_c

25 มิ.ย. 2567

160 views

ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มผู้บริหารโรงเรียน เอกชนในจังหวัดสงขลา ข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารเพื่อทุจริตเงินอุดหนุนจากภาครัฐหลายรายการ



พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวการจับกุมผู้บริหารโรงเรียนเอกชนชื่อดังในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประกอบด้วยนายพิพัตน์ฯ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการและผู้จัดการโรงเรียน / นางอุบล อายุ 55 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ / นางอัญชลี อายุ 64 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนๆ / นางถิระนันท์ อายุ 65 ปี หัวหน้าฝ่ายบริหารงานงบ ในข้อหา "ร่วมกันยักยอก และ ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม" หลังมีครูในโรงเรียนและผู้ปกครองมาร้องเรียนว่าเกิดการทุจริตในโรงเรียน



ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตเงินโครงการอาหารกลางวัน โรงเรียนจะได้เงินค่าอาหารกลางวันของเด็กตั้งแต่ อนุบาล1 ถึง ประถมศึกษาปีที่6 จำนวน 1,100 คน คนละ 22 บาท แต่เมื่อได้เงินมา ทางกลุ่มผู้ต้องหาจะหักออก 5 บาท และนำเงินที่เหลือ 17 บาท ให้แม่ครัวไปจัดสรรอาหารให้เด็ก ทำให้เด็กจะได้อาหารที่ไม่ตรงหลักโภชนาการและไม่มีคุณภาพ ส่วนเงินอุดหนุนเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์ หนังสือเรียน โดยโรงเรียนจะเรียกคืนหนังสือเรียนกลับคืนมา หากต้องการเอากลับไปอ่านที่บ้านจะต้องซื้อ ส่วนหนังสือที่เอาคืนมาก็จะวนให้คนอื่น แต่ทางโรงเรียนไปทำการจัดซื้อเต็มงบประมาณ รวมความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท



ด้านพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนทำหน้าที่มา 20 ปี แต่พบหลักฐานการทุจริตดังกล่าวย้อนหลังได้เพียง 1-2 ปี คือช่วงภาคเรียนที่ 2/2565 - ภาคเรียนที่ 1/2566 ซึ่งเงินที่ทุจริตเป็นเงินงบประมาณที่รัฐบาลมอบให้โรงเรียน เอกชนสนับสนุนอาหารกลางวันให้กับนักเรียน และการทุจริตดังกล่าวทำให้ครูและผู้ปกครองจึงมีการรวมตัว กันขึ้นมาร้องที่กองปราบซึ่งก่อนหน้านี้ ทางกองปราบได้ลงไปตรวจสอบแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2566 โดยพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ได้ตั้งข้อสังเกตุว่าก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ต่อมาไม่นานก็กลับมาทำงานอีก



ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่มั่นใจจากการสอบสวนและสอบปากคำกว่า 100 ปาก ที่ได้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันเชื่อว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้

คุณอาจสนใจ

Related News