ตร.ทลายแหล่งรับจำนำรถรายใหญ่ จ.เพชรบุรี พบของกลางอื้อ ขณะนี้อยู่ระหว่างตามผู้เช่าซื้อให้ปากคำ

จากคดีฆาตรกรรมหลายคดีที่ผ่านมา ปรากฎว่าแผนประทุษกรรมของคนร้าย เมื่อฆ่าเหยื่อเสียชีวิตแล้ว ก็จะนำรถของผู้เสียชีวิตไปขายต่อยังกลุ่มรับจำนำรถ ล่าสุดตำรวจกองปราบปราม จับแก๊งรับจำนำ รถรายใหญ่ ได้ที่จ.เพชรบุรี พบรถของกลางทั้งรถยนต์ รถบรรทุก และรถจักรยานยนต์ รวม 61 คัน หากขาดส่งดอกเบี้ยรถจะถูกขายต่อทันที โดยตำรวจอยู่ระหว่างติดตามผู้เช่าซื้อรถทั้ง60 คันไปให้ปากคำ


จากคดีฆาตรกรรม นายขนบ สมหวัง เจ้าของสนามชนไก่ ในจ.ชุมพร และกลุ่มผู้ต้องหา ได้นำรถของผู้เสียชีวิตไปขายต่อยังแก๊งรับจำนำรถ ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม ใช้เวลาแกะรอย กระทั่งพบว่า รถของผู้เสียชีวิตถูกขายต่อมายังกลุ่มรับจำนำรถ ที่จังหวัดประจวบฯ และขายต่อให้นายทุน ในจ.เพชรบุรี


จนนำไปสู่ ตำรวจสอบสวนกลาง กองปราบปรามและตำรวจทางหลวงเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นสถานที่ 6 จุด เพื่อหาพยานหลักฐานการรับจำนำรถ โดย 4 จุด เป็นบ้านพัก ของนายทุนรับจำนำรถ ซึ่งอยู่ที่ ต.บ้านกุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี พบหลักฐานเป็นเอกสารเกี่ยวกับการรับจำนำรถ และสัญญาเงินกู้ 174 ฉบับ รวมทั้งบัญชีม้า ที่ใช้ในการชำระดอกเบี้ย


ขณะที่อีก 2 จุด บ้านโกดัง ในต.ธงชัย และโกดังในต.บ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี โดยทั้ง 2 โกดัง พบรถยนต์จำนวนมาก รวม 34 คัน รถบรรทุก 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 26 คัน รวมรถที่ยึดได้จำนวน 61 คัน จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นเครือข่ายรับจำนรถรถรายใหญ่ ในพื้นที่จ.เพชรบุรี มีการรับจำนำรถในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 10 หากลูกหนี้ขาดส่งดอกเบี้ยเกิน 3เดือน รถจะถูกขายต่อไปทันที


ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า รถส่วนใหญ่ที่นำไปจำนำ เป็นรถที่ติดไฟแนนซ์ แต่ผู้เช่าซื้อได้นำไปค้ำประกันเงินกู้ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกไฟแนนซ์ฟ้องร้องคดียักยอกทรัพย์ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ กลุ่มรับจำนำรถ จึงฉวยโอกาสรับจำนำ แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่สูง และเสี่ยงต่อเมื่อนำเงินมาไถ่ถอน รถอาจไม่ได้คืน


โดยหลังจากนี้ ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม จะเรียกผู้เช่าซื้อรถ ที่นำรถไปจำนำ ซึ่งตรวจค้นพบที่โกดังทั้ง 61 คันมา