แผนงานแนวทางจัดการขยะ กทม. ตั้งเป้าลดการฝังกลบภายในปี 69

วันแถลงข่าวการทำงานครบรอบ 2 ปีของทีมผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจ นั่นคือ อีก 2 ปีข้างหน้านี้ กทม.ได้ตั้งเป้าลดการฝังกลบขยะจากเดิมร้อยละ 65 ของขยะทั้งหมด ให้เหลือ ร้อยละ 21 ซึ่งถือเป็นความท้าทายเมื่อเทียบกับปริมาณขยะในกรุงเทพฯ ที่มีมากถึง 8,000 ตันต่อวัน หากทำได้จริงก็จะทำให้ประหยัดเงินค่าจัดการขยะไปได้ถึงปีละกว่า 172 ล้านบาท แนวทางความเป็นไปได้ของแผนงานนี้ ที่เริ่มแล้วในทุกเขตทั่วกรุงเทพมหานครมาตั้งแต่ช่วงปี 2565


นี่คือกิจวัตรประจำวันของร้านก๋วยเตี๋ยวรู ตลาดน้อย ที่พนักงานในร้านทุกคนจะต้องแยกขยะระหว่างเศษอาหาร กับ ขยะทั่วไป เช่น ทิชชู่ ตะเกียบ และหลอด ก่อนนำภาชนะไปทำความสะอาด


เช่นเดียวกับ ร้านก๋วยจั๊บนายเอ็ก เยาวราช ที่จะต้องแยกเศษอาหาร และ ขยะอื่นๆ ออกจากกัน นี่เป็นสิ่งที่พวกเขายึดเป็นแนวทางปฏิบัติมาแล้วหลายปี ซึ่งพบว่าง่ายต่อการบริหารจัดการขยะภายในร้าน ก่อนส่งขยะที่ผ่านการคัดแยกแล้วเหล่านี้ให้กับเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร


ทั้งหมดนี้เป็นการสานต่อโครงการไม่เทรวมในกระบวนการที่เข้มข้นขึ้นของกรุงเทพมหานคร เพื่อคัดแยกขยะเศษอาหารเหล่านี้ออกมา ซึ่งเป็นนโยบายที่ผู้ว่าชัชชาติมอบให้กับ 50 เขต ของกทม.ดำเนินการ เช่น ที่เขตสัมพันธวงศ์ที่ข่าว 3 มิติมาติดตามการจัดการขยะในวันนี้ แม้จะเป็นเขตเล็กๆ ที่มีพื้นที่ 1.4 ตารางกิโลเมตร แต่ก็มีชุมชนอาศัยอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีมากกว่า 70 ร้าน


ซึ่งเมื่อขยะทั้งหมดถูกเก็ฐมาก็จะถูกแยกประเภทอย่างชัดเจน ตั้งแต่บนรถขยะ คือ เศษอาหารส่วนเศษอาหาร และ เศษผักผลไม้ หรือ วัตถุอินทรีย์ ก็อยู่ในส่วนที่ชัดเจน จนกระทั่งถึงจุดคัดแยก


โดยขยะเหล่านี้จะถูกนำไปส่งต่อให้กับเกษตรกรใช้ทำอาหารสัตว์หรือปุ๋ย ขณะที่บางส่วนก็จะเข้าสู่กระบวนการเผาทำลายหรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ต่อไป


ส่วนขยะกำพร้าก็จะถูกนำไปทำเป็นเชื้อเพลิง ลดปริมาณขยะเปียกจากปกติที่มากกว่า 60 ตันต่อวัน เหลือเพียง 40 ตัน ต่อวัน


ปัจจุบันพื้นที่ กทม.มีขยะเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละกว่า 8,000 ตัน แบ่งเป็น ขยะทั่วไปและขยะอินทรีย์ ซึ่งกว่าร้อยละ 50 หรือ กว่าครึ่งของขยะทั้งหมดมาในรูปของเศษอาหาร หรือ วัตถุอินทรีย์


นี่เป็นแผนงานของกทม.ที่จะใช้เวลา 2 ปีต่อจากนี้ลดปริมาณการฝังกลบขยะ เพื่อลดต้นทุน จากปี 66 ที่มีปริมาณการฝังกลบ ร้อยละ 65 ลดลงสู่ร้อยละ 54 ในปัจจุบัน และ ร้อยละ 21 ในปี 69 ซึ่งจะไปเพิ่มในสัดส่วนของการแยกหมักทำปุ๋ยและนำสู่โรงเผาเพื่อผลิตไฟฟ้าอ่อนนุช-หนองแขม ที่จะสร้างเสร็จในปี 69 ซึ่งจะประหยัดเงินค่าจัดการขยะได้ 172,462,500 บาท/ปี


นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. อธิบายว่าการบรรลุเป้าหมายจำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่การบริหารจัดการแหล่งกำเนิดของขยะ คือ ตลาด บ้านโรงเรียน แยกให้ง่าย ที่มีกว่า 4 พันแห่งทั่ว กทม โดยปัจจุบันแยกขยะเปียกได้เกือบ 300 ตันต่อวัน และตั้งเป้าขยับเป็น 500 ตัน ในปี 68 และ อย่างน้อย 1000 ตันต่อวันในปี 69 ซึ่งเป็น 1 ส่วน 4 ของขยะเศษอาหารในกรุงเทพที่มีปริมาณมากถึง 4000 ตันต่อวัน


ปัจจุบันรถเก็บขยะของกทม. ทุกคัน จะมีถังขยะสำหรับเศษอาหาร ทุกบ้านเรือนจึงสามารถแยกขยะเป็น 2 ถุง โดยเขียนระบุง่ายได้ว่าขยะนั้นเป็นขยะเปียก หรือ ใช้ถุงใสเพื่อง่ายต่อการสังเกต เพื่อให้เจ้าหน้าที่แยกไปใส่ถังเฉพาะ เท่านี้ก็ง่ายต่อการนำไปจัดการต่อ