สังคม
เปิดชีวิตนักโทษหลบหนี 'แป้ง นาโหนด' ไม่มีใครช่วยเหลือ เอกสารต้องจ้างให้ชาวอาเจะห์ดำเนินการให้
โดย parichat_p
2 มิ.ย. 2567
222 views
วันนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 222 วันที่นายเชาวลิต ทองด้วง ยอมรับสารภาพที่ได้หลับหนีออกจากเรือจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และยอมรับในความสามารถของตำรวจและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่จับกุมตัวได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย
นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ยอมรับกับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างถูกควบคุมตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นการพบกันครั้งแรก หลังจากนายเชาวลิต หลบหนีออกจากเรือนจำนครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 จนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย รวมเวลา 222 วัน
บทสนทนาระหว่างนายเชาวลิต กับ พันตำรวจเอกทีวี นอกจากที่นายเชาวลิต ยอมรับผิด และปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว นายเชาวลิต ยังได้ยืนยันว่าในระหว่างอยู่อินโดนีเซีย ไม่มีใครช่วยเหลือ เอกสารต่างๆก็ว่าจ้างให้ชาวอาเจะห์ ดำเนินการให้ รวมถึงการจัดหาที่พักในเมืองต่างๆ
นายเชาวลิต ยังยอมรับว่า พันตำรวจเอกทวี และชุดสืบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 9 เก่งที่ตามจับกุมได้ ทั้งๆที่หลบหนีไปหลายประเทศ พร้อมยังได้ตอบคำถามเจ้าหน้าที่อย่างอารมณ์ดี โดยอ้างว่าคลิปวีดีโอที่อัดเผยแพร่ผ่านสือใน อีพี 1 อยู่ที่อินเดีย ส่วนอีพี 2 ที่อินโดนีเซีย ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่น่าจะเป็นความจริง
นายเชาวลิต ในชุดผู้ต้องขังอินโดนีเซีย สีส้ม ปรากฏตัวกับสื่อมวลชนไทย ระหว่างที่ตำรวจอินโดนีเซีย นำตัวไปยังห้องควบคุมตัว ในเวลาเพียงสั้นๆ นายเชาวลิต ยังมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ตรงกับที่ตอบคำถามตำรวจว่า อยู่ที่นี่ก็ออกกำลังกายเยอะทำให้ยังแข็งแรงดี
สำหรับเส้นทางการหลบหนีของนายเชาวลิต ยังไม่เปิดเผยใดๆ แต่จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่าหลังนายเชาวลิต หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ไปยังเทือกขาบรรทัด หลังเกิดการปะทะในวันที่ 8 พฤศจิกายน ก็หลบหนีไปทางเรือจากจังหวัดสตูล ไปยังเมืองอาเจะห์อินโดนีเซีย ก่อนจะทำสุติบัตร ทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนปลอม เป็นชาวอาเจะห์ ก่อนจะเปิดบัญชีธนาคาร โดยการสนับสนุนจากเครือข่ายยาเสพติด และใช้เดินทางไปยังเมืองเมดาน เลือกพักในคอนโดหรูกลางเมือง ก่อนที่ชุดสืบสวนภูธรภาค 9 ซึ่งตามแกะรอยจากคนใกล้ชิดในประเทศไทย มาได้หลักฐานยืนยันว่านายเชาวลิต อยู่ในเมืองเมดานแน่นอน จึงนำมาซึ่งการประสานกับตำรวจอินโดนีเซีย ตามแกะรอยและจับกุมตัวได้ที่เกาะบาหลี