เปิดปฏิบัติการ 'ดับควัน วันเปิดเทอม' ทลายโกดัง-ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษา

กระทรวงมหาดไทย โดย"ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง" เปิดปฏิบัติการ "ดับควัน วันเปิดเทอม" นำกำลังปูพรมเข้าจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 6 ร้าน ใกล้โรงเรียนเเละมหาวิทยาลัย ย่านศาลายา นครปฐม หลังมีครูเเละผู้ปกครองร้องเรียน กำลังระบาดหนักในกลุ่มเยาวชน มีหลายคนเเอบพกเข้ามาสูบในสถานศึกษา เเละในเวลาไล่เรี่ยกัน รัฐมนตรีมหาดไทย นำกำลังเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งชุด บุกเข้าไปทลายโกดังขนาดใหญ่ในพื้นที่ อ.กระทุ่มเเบน จ.สมุทรสาคร จับผู้ดูเเล-ยึดของกลางเป็นน้ำยาพร้อมอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า รวมมูลค่านับร้อยล้านบาท



ภาพมุมสูงจากทีมสายลับ ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่บันทึกให้เห็นความเคลื่อนไหวภายในโกดัง ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จุดนี้เป็นโกดังเช่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.กระทุ่มเเบน จ.สมุทรสาคร จนกระทั่งบ่ายวันนี้ ทันทีที่สายลับยืนยันเป้าหมาย ปฏิบัติการบุกทลายรังก็เริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทั้งจากส่วนกลางเเละในพื้นที่ นำหมายศาลเข้าไปเเสดงกับผู้ดูเเล เเละตรวจค้นรอบทั้งในเเละนอกอาคาร



ชายคนนี้ รับเป็นคนจัดสินค้าเเละนอนเฝ้าที่นี่ อ้างไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่พบว่า ที่นี่ถูกใช้เป็นเเหล่งพักเเละกระจายบุหรี่ไฟฟ้า ส่งออกไปตามออร์เดอร์ หลัก ๆ มีร้านค้าทั้งในสมุทรสาคร เเละนครปฐม เป็นลูกค้าหลัก ใบสั่งสินค้าเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนที่เเสดงให้เห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้ากระจายส่งไปที่ไหนบ้าง ลงเบอร์โทร ชื่อร้าน จำนวนเเละรหัสสินค้าไว้ชัดเจน เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรอบ ๆ นอกจากน้ำยาเเละอุปกรณ์ที่จัดเรียงไว้ในโกดัง ด้านหลังยังพบบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบนำเข้ามาอีกจำนวนมาก



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมอธิบดีกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ซึ่งคอยสั่งการเเละร่วมอำนวยการตลอดภารกิจ พบว่าเเหล่งพักเเละกระจายบุหรี่ไฟฟ้าที่กระทุ่มเเบน มีของกลางที่ประเมินคร่าว ๆ เชื่อว่ามีมูลค่านับร้อยล้านบาท ถือว่าคลังใหญ่ที่สุดตั้งเเต่ฝ่ายปกครองเคยจับ มีทุกรูปเเบบ ตั้งเเต่อุปกรณ์สูบ เเบตเตอรี่ น้ำยา หรือเเม้เเต่กล่องที่รวมขายเป็นเเพ็คเกจ เเต่ที่น่าสนใจเเละน่าห่วงก็คือ มีบางรุ่นทำเป็นตัวการ์ตูนเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเยาวชน



การสืบสวนของฝ่ายปกครอง พบว่า โกดังเเห่งนี้ กระจายไปถึง 6 เป้าหมายการจับกุมที่ศาลายา นครปฐม ซึ่งอยู่ใกล้สถานศึกษาหลายเเห่ง ก่อนหน้านี้ก็มีครูเเละผู้ปกครอง ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงค์ธรรม พบเยาวชนเเอบนำเข้าไปสูบ บางส่วนยอมรับว่าติดกลิ่น จึงพากันสูบตามเพื่อนเพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัย ซึ่งในทางสาธารณสุข นายอนุทิน ยืนยันว่า อันตรายกว่า



ร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า 6 ร้าน รวมทั้งโกดัง ถูกตั้งข้อกล่าวหา ฐานซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ตามมาตรา 242 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร เเละขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยา โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558



ทั้งหมดถูกยึดไว้เป็นของกลาง ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจนับทำทะเบียนจัดเก็บ เเละมหาดไทยได้ย้ำเตือนผู้ที่ยังฝ่าฝืน มีโทษปรับหนักถึง 5 เท่า เช่น เจอ 1 อันราคา 1 พันบาท คูณ 5 จะถูกปรับ 5 พันบาท เจอทั้งโกดังเเบบนี้ ก็น่าสนใจว่าจะถูกปรับเท่าไหร่ ซึ่งทีมสืบสวนเเกะรอยเส้นทางการเงิน เเละมีข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องเเล้ว