อคส.เตรียมออกทีโออาร์ เปิดประมูลข้าว 10 ปี หลังกรมวิทย์ฯ เผยผลตรวจ ไม่พบสารตกค้าง รับประทานได้

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการตรวจวิเคราะห์ข้าวสารจากกระทรวงพาณิชย์ ไม่พบสารเคมีตกค้าง สารพิษจากเชื้อรา หรือ สารอะฟลาท็อกซิน ส่วนคุณค่าทางโภชนาการไม่แตกต่างจากข้าวสารที่จำหน่ายในท้องตลาด แต่มีสิ่งแปลกปลอมเกินข้อกำหนด ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง ข้าวหอมมะลิไทย ด้านกรมการค้าภายในเตรียมส่งอำนาจหน้าที่ให้องค์การคลังสินค้า เดินหน้าเปิดประมูลต่อตามหลักเกณฑ์ ภายในเดือนพฤษภาคมนี้



นี่เป็นข้าวบางส่วนที่เหลือจากการตรวจสอบคุณภาพโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แบ่งเป็นข้าวที่กรมได้รับจาก กระทรวงพาณิชย์ 2 ตัวอย่าง ตัวอย่างแรก 3 กิโลกรัม และ ตัวอย่างที่ 2 5 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ส่วนข้าวอีก 2 ตัวอย่างทางกรมสุ่มหาจากตลาดทั่วไป เพื่อนำมาเปรียบเทียบความปลอดภัยและคุณภาพของข้าว จากการประเมินด้วยตาเปล่าจะเห็นความแตกต่างของสีข้าวได้อย่างชัดเจน คือ ข้าวจากกระทรวงพาณิชย์จะมีสีเข้ม ส่วนข้าวตามท้องตลาดจะมีสีที่อ่อนกว่า



นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การเเพทย์ รายงานผลการตรวจสอบข้าวสารจากห้องปฏิบัติการสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร แบ่งเป็น 3 ประเด็น คือ 1.การตรวจสอบด้านกายภาพและสิ่งแปลกปลอม / 2.ด้านความปลอดภัยจากสารปนเปื้อน และ 3.ด้านคุณค่าทางโภชนาการอาหาร



สำหรับด้านกายภาพและสิ่งแปลกปลอม ในตัวอย่างของกระทรวงพาณิชย์ พบเม็ดข้าวทั้งเมล็ดสีเหลืองมีกลิ่นอับ พบมอดมีชีวิตและชิ้นส่วนแมลง ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อกำหนดคุณลักษณะเฉพาะตามมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง ข้าวหอมมะลิไทย (มกษ. 4000-2560) ที่ต้องปราศจากแมลงและไรที่มีชีวิต



ประเด็นที่ 2 ด้านความปลอดภัยตรวจไม่พบสารพิษจากเชื้อรา 7 ชนิด ได้แก่ อัลฟาทอกซิน (Aflatoxin) ดีออกซีนิวาลีนอล (Deoxynivalenol) ฟูโมนิซิน (Fumonisins) โอคราท็อกซิน เอ (Ochratoxin A) และซิตรินิน (Citrinin)



ขณะเดียวกันก็ตรวจไม่พบสารรม ได้แก่ hydrogen phosphide bromide ion ethylene oxide และสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช 250 ชนิด



ส่วนผลการทดสอบโลหะหนัก 5 ชนิด ได้แก่ ตะกั่ว แคดเมียม ดีบุก ปรอททั้งหมด และสารหนู ก็อยู่ในปริมาณปนเปื้อนที่ต่ำกว่าปริมาณสูงสุดที่กำหนดไว้ ประเด็นสุดท้ายคุณค่าทางโภชนาการ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน พบว่าไม่แตกต่างจากข้าวสารที่จำหน่ายในท้องตลาดอีก 2 ตัวอย่าง ที่นำมาตรวจในชุดการวิเคราะห์เดียวกัน



รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ยืนยันว่าข้าวทั้ง 2 ตัวอย่างที่ส่งให้กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นข้าวสารจากโกดัง 2 แห่งในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นข้าวล็อตสุดท้ายของรัฐบาล ที่นายภูมิธรรม เวชชัย ได้ชิมข้าวเพื่อยืนยันว่าข้าวล็อตนี้รับประทานได้



สิ่งที่น่าสนใจคือคุณค่าทางโภชนาการอาหารของข้าวสารที่ระบุว่าเก็บมานานถึง 10 ปี ยังคงมีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียง และ สารอาหารบางชนิดสูงกว่าข้าวที่ขายในปัจจุบัน จึงนำมาสู่คำถามที่ว่าได้มีการตรวจสอบอายุของข้าวหรือไม่ ซึ่ง

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบายว่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีการที่ใช้ตรวจสอบอายุของข้าวได้ แต่ยืนยันว่ากระบวนการทดสอบได้มาตรฐานตาม ISO/IEC 17025



อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า นอกจากกรมวิทย์ฯ แล้ว ในขั้นตอนการเก็บตัวอย่างก็ได้มอบหมายให้บริษัทเอกชน และ บริษัทจากต่างประเทศ ตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของข้าวที่อยู่ในคลัง ซึ่งพบว่า ผ่านมาตรฐานทั้ง 2 โกดัง โดยทางกรมการค้าภายใน พร้อมเก็บตัวอย่างข้าว ส่งตรวจเพิ่มเติมอีกในอนาตค เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนปล่อยเข้าสู่ตลาด



จากนี้ทาง อคส. จะร่างสัญญากำหนดเงื่อนไข หรือ ทีโออาร์ เพื่อเปิดประมูลข้าวทั้งหมดกว่า 15,000 ตัน แบ่งเป็นที่โกดังกิตติชัย 11,645 ตัน และที่คลังพูนผล 3,356 ตัน ซึ่งจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์กำหนดคุณภาพของสินค้า โดยคาดว่าจะเริ่มได้ไม่เกินสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้