สังคม
ไทม์ไลน์ คดีฆ่าอำพรางศพชายเกาหลียัดถังถ่วงน้ำ ล่าสุดพบหลบหนีออกนอกประเทศทั้ง 3 คน
โดย parichat_p
12 พ.ค. 2567
118 views
ผู้ต้องหาชาวเกาหลี 3 คน ที่ร่วมก่อเหตุอุ้มฆ่าโบกปูนชายชาวเกาหลีใต้ ได้หลบหนีออกนอกประเทศทั้ง 3 คนแล้ว โดยทางการไทยยังประสานทางการเกาหลีถึงสาเหตุการฆาตรกรรมว่าจะเกี่ยวข้องคดียาเสพติดหรือ อาจเกี่ยวกับธุรกิจลงทุน เพราะแฟนผู้ตายให้ข้อมูลว่าผู้ตายเทรดหุ้น แต่การก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่ามีการวางแผนมาล่วงหน้า
จากกรณีพบศพชาย ถูกฆ่าโบกปูนยัดถัง ที่อ่างเก็บน้ำมาบประชัน อ.หนองปรือ จ.ชลบุรี และคาดว่าจะเป็นนายโรห์ ชาวเกาหลีใต้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจที่สถาบันนิติเวช ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้เก็บดีเอ็นเอจากพี่สาว มาเปรียบเทียบกับศพที่พบว่าดีเอ็นเอตรงกันหรือไม่ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายคิม นายลี และนายรุน
โดยล่าสุด มีรายงานว่านายคิม ที่ยังไม่มีประวัติออกนอกประเทศ พบว่าได้หลบหนีไปเมียนมาแล้ว ส่วนนายลีได้หลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมไปยังกัมพูชาและนายรุนได้หลบหนีไปประเทศเกาหลี
คดีนี้เริ่มขึ้นจากมารดาของนายโรห์ แจ้งสถานทูตเกาหลีฯ ว่ามีคนร้ายใช้เบอร์โทรศัพท์ของลูกชาย ไลน์ผ่าน กาเกาทอล์ค มาหาแม่ผู้ตายว่าลูกชายได้ทิ้งยาเสพติด ลงน้ำจนเกิดความเสียหาย ขอเรียกร้องเงิน3ล้านบาทเป็นค่าชดใช้ จากนั้นมารดาจึงประสานให้สถานทูตเกาหลีประสานกับตำรวจไทยทำการสืบสวน
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตชาวเกาหลีใต้ได้เดินทางเข้าประเทศไทย 30เม.ย.2567 เข้าพักที่โรงแรมย่านมักกะสัน
จากนั้น 19.36 น. ผู้เสียชีวิต เดินออกจากโรงแรม และได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้าง ไปสถานบันเทิงที่ อาร์ซีเอ ซึ่งพบภาพวงจรปิดพบว่า ผู้เสียชีวิตได้มาที่สถานบันเทิงและมีเพื่อนชาวเกาหลี เดินมาประกบตอนออกจากสถานบันเทิงประมาณตี2และมีรถมารอรับ
ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถ เพิ่มเติมพบว่า มีคนอยู่ในรถ 2คน คือ คนขับ และคนนั่งข้าง รวมกับคนที่ประกบตัวผู้เสียชีวิตมา1คน และผู้เสียชีวิตอีก1คน รวมเป็น 4 คน
จากนั้นผู้เสียชีวิตก็ขึ้นรถ ออกจากสถานบันเทิง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถเช่า ตัวผู้เช่า คือ นายคิม ซึ่งเป็นคนขับ
หลังจากนั้นก็ออกจากอาร์ซีเอ ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านร่มเกล้า มีนายลีเช่าห้องพัก ระหว่างวันที่ 1-4 พ.ค. และถูกคุมตัวไปคือวันที่ 2ต่อวันที่ 3 ผู้ต้องหาได้ดึงสายกล้องวงจรปิดออกทั้งหมด
ประมาณ 03.00 น. นายคิม ออกจากหมู่บ้านคนเดียว ไปคอนโดย่าน สุขุมวิท77 เพื่อเก็บเสื้อผ้า แล้วขับรถกลับมาที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง
จากนั้นทั้ง 4 คน ขับรถไปคอนโดย่านสุขุมวิท77 นายรุน ลงไปเอาสิ่งของบางอย่างที่คอนโด ไปให้คนในรถแล้ว นายรุนไม่ได้ขึ้นรถไปด้วย คนในรถ 3คน ได้เดินทางผ่านด่านลาดกระบังขาออก มุ่งหน้าไปพัทยา
โดยรถเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านมาบประชัน ซึ่งมีนายลี มาขอเช่าผ่านแอพพิเคชั่น ตั้งแต่ วันที่ 3-10พ.ค.
ประมาณ 10.45 น.นายคิมมาจอดรถ หน้าบริษัทให้เช่ารถ นายคิมลงมาทำสัญญาเช่ารถอีก1คัน เป็นรถกระบะสีขาว และขับมาที่บ้านพัก ในช่วงเวลา11 นาฬิกาของวันที่ 3พ.ค.
ประมาณ 15.00 น. นายคิม และนายลี ขับรถกระบะ ออกมาที่ร้านค้า เพื่อซื้อถังสีดำขนาดใหญ่ และเชือก ไว้ท้ายกระบะโดยมีผ้าคลุม แล้วขับรถกลับไปบ้านหลังที่เช่าไว้
ช่วงวันที่ 3-4 พ.ค. ประมาณ 25ชม. ผู้ก่อเหตุได้ถอดกล้องวงจรปิดออกจากบ้านที่เช่าทั้งหมด
จนวันที่ 4 พ.ค. เวลาประมาณ 17.34น. นายลีขับรถกระบะออกไป และนายคิมขับรถเก๋ง ออกจากหมู่บ้าน แล้วขับวนอยู่ในพัทยาเกือบ5ชั่วโมง
จนเวลาเกือบ4ทุ่ม ชุดสืบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นรถสองคัน เข้ามาประกบกันแถวอ่างเก็บน้ำ คนหนึ่งลงรถ มาหารถกระบะ แล้วรถกระบะก็ขับรถเข้าไปบริเวณอ่างเก็บน้ำ ใช้เวลาประมาณ25นาที รถกระบะคันดังกล่างก็ออกมา แล้วกลับมาหมู่บ้านมาบประชัน
โดยภาพวงจรปิดของหมู่บ้านปรากฎจะเห็นชัดเจนว่า ขาออกหมู่บ้าน รถกระบะมีผ้าคลุมสีดำ แต่ขาเข้าหมู่บ้าน ไม่มีผ้าคลุมสีดำหลังกระบะแล้ว
ประวัติการเข้าประเทศไทยนายคิม เข้ามา8 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2563 ทำให้ชำนาญพื้นที่ ส่วนนายลีเข้ามาปี67 พร้อมกับนายรุน เบื้องต้น พบว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมย้อนหลัง แต่นานแล้ว
ส่วนมูลเหตุจากการสอบถามญาติ เพื่อนและแฟนที่อยู่เมืองไทยของผู้ตาย ให้การว่าไม่เกี่ยวข้องเรื่องยาเสพติด และเพิ่งรู้จักกันที่อาร์ซีเอ โดยยังไม่ได้จ่ายเงิน 3 ล้านบาทให้ ส่วนผู้ก่อเหตุที่กล่าวอ้างกับทางแม่ของผู้เสียชีวิต ได้ให้ทางตำรวจเกาหลีทำการตรวจสอบ
ทั้งนี้ แฟนผู้เสียชีวิต คบ 1 ปี กับ 5 เดือน ประกอบอาชีพรับจ้าง ส่วนผู้เสียชีวิต จากคำให้การของของแฟน ระบุว่า เบื้องต้นทำการเทรดหุ้นและหากวันนี้ผลการตรวจดีเอ็นเอ เป็นนายโรห์จริง ก็จะมีการขอหมายจับ และประสานขอหมายแดง เพื่อประสานตำรวจเกาหลีส่งตัวมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย