สังคม

ออกหมายจับเพิ่ม 2 ราย แก๊งตร.อุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน เร่งรวมหลักฐานล่าที่เหลือ คาดมีอย่างน้อย 11 คน

โดย panwilai_c

4 พ.ค. 2567

49 views

กรณีอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน มูลค่า 2 ล้าน 5 เเสนบาท ล่าสุด "ทีมสืบสวนนครบาล" ตามจับได้เเล้ว 4 คน การสืบสวนพบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้มีอย่างน้อย 11 คน มีอดีตตำรวจเป็นหัวหน้าเเก๊ง วงจรปิดในที่เกิดเหตุบันทึกเหตุการณ์ได้ชัดเจน เเละคาดว่าภายในวันนี้ จะออกหมายจับเพิ่มอีก 6 คน ซึ่งผู้ร่วมขบวนการมีทั้งตำรวจเเละพลเรือน



เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน เวลา 20.30 น. กลุ่มชายฉกรรรจ์ 11 คน บุกเข้าไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยประชาสงเคราะห์ 2 ย่านดินแดง อ้างตัวเป็นตำรวจ ก่อนจะอุ้มชาวจีน 4-5 คนไปรีดทรัพย์



ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ขณะที่กลุ่มคนร้าย เข้าไปที่ล็อบบี้โรงแรม เพื่อขอเปิดห้อง จากนั้นได้ขึ้นไปบนชั้นที่ผู้เสียหายพัก โดยขึ้นไปทั้งหมด 3 คน ในจำนวนนี้มี 2 คน เป็นตำรวจ จากภาพจะเห็นว่าเดินวนเวียนหน้าห้อง ก่อนจะเคาะประตูแล้วบุกเข้าไปในห้องผู้เสียหาย



ภาพอีกมุม จะเห็นคนกลุ่มนี้เดินไปล็อกแขนชาวจีน 4 คน ไปขึ้นรถ 2 คันที่จอดอยู่ เเละขับออกไปจากที่เกิดเหตุ



พฤติการณ์ตามคำให้การของผู้เสียหาย ยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้บังคับให้โอนเงินสกุลดิจิตอล 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท เเละให้จ่ายเงินสดที่ผู้เสียหายมีติดตัวอยู่อีก 100,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี โดยอ้างว่าผู้เสียหายกระทำความผิดเกี่ยวกับการแลกเงิน



หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้มาแจ้งความที่ สน.ดินแดง ซึ่งตำรวจได้สืบสวน จนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ และสามารถออกหมายจับได้แล้วทั้งหมด 5 คน เป็นอดีตตำรวจ 1 คน / ตำรวจในราชการ 2 คน และพลเรือนอีก 2 คน



โดยเมื่อวานนี้ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ ดาบตำรวจอรรถวุฒิ อดีตตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว หรือ ดาบบอส และ สิบตำรวจเอกภูวเดช หรือ หมู่มิก สังกัดศูนย์วิทยุผ่านฟ้า 191 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล



และล่าสุดเมื่อคืนนี้ จับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 คน คือ นายธีรชัย หรือ ฟาง และนายนภสินธุ์ หรือ บิ๊ก ซึ่งนายธีรชัย พูดภาษาจีนได้ จึงทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับแก๊งตำรวจ



ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่ยังหลบหนี คือ จ่าสิบตำรวจวีรยุทธ หรือจ่า แจ๊ค ผบ.หมู่จราจร สน.พญาไท ทีมสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวโดยประสานผู้บังคับบัญชา และครอบครัวให้ทราบแล้ว ซึ่งตำรวจย้ำว่าหากใครให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นให้พักพิง หรือช่วยปกปิดข้อมูล จะดำเนินคดีตามกฏหมายอาญา



พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่ถูกจับได้ ทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ แต่ก็ยังให้การภาคเสธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตำรวจได้ให้ผู้เสียหายชาวจีนมาชี้ตัว ซึ่งผู้เสียหายก็ยืนยันว่าทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุม คือ กลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่จริง



สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จะแบ่งหน้าที่กันโดย มีดาบตำรวจอรรถวุฒิ หรือ ดาบบอส อดีตตำรวจ สน.คันนายาว ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการ เป็นด่านสุดท้ายที่กลุ่มผู้ก่อเหตุพาผู้เสียหายมาเจอ เพื่อให้ยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ พร้อมกับข่มขู่รีดเงิน โดยพบว่าในวันเกิดเหตุได้ ดาบบอส ขับรถเบนซ์สีดำมาจอดที่หน้าโรงแรม แต่ไม่ได้ลงจากรถ



ส่วนนายนภสินธ์ หรือบิ๊ก ได้รับการติดต่อจาก จ่าสิบตำรวจวีรยุทธ หรือ จ่าแจ๊ค ให้มาทำหน้าที่นั่งรถ โดยมาพร้อมนางสาวลูกปลา และเข้ามาเปิดห้องพักเพื่อให้เข้าถึงตัวผู้เสียหายได้



ส่วนนายธีรชัย หรือฟาง ได้รับการติดต่อจากจ่าแจ็ค ให้มาเป็นล่ามแปลภาษา ได้ค่าจ้างจำนวน 15,000 บาท และสิบตำรวจเอกภูวเดช หรือหมู่มิก เป็นผู้ให้จ่าแจ๊คยืมรถ โดยจ่าแจ๊คอ้างว่าจะมาจับผู้ต้องหา ก่อนจะถูกชวนมาร่วมทีม ซึ่งหมู่มิก ให้การยอมรับแล้วว่าร่วมอยู่ในทีมด้วย



ส่วนผู้ก่อเหตุที่เหลืออีก 6 คนที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น การรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ต้องหา รู้แล้วว่าเป็นใครบ้าง กำลังรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ



สำหรับนางสาวลูกปลา ที่ทำหน้าที่เป็นนกต่อชี้เป้าให้กับกลุ่มผู้ต้องหา และพาจ่าแจ๊คมาเปิดห้องที่โรงแรม ตำรวจสืบสวนพบว่า เป็นคนนำเครื่องรูดบัตรมาให้กับกลุ่มผู้เสียหายด้วย เพื่อให้แก๊งตำรวจอ้างว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งตำรวจเตรียมจะขออนุมติศาลออกหมายจับด้วยเช่นกัน



พลตำรวจตรีนพศิลป์ บอกอีกว่า สาเหตุที่เลือกลงมือกับกลุ่มผู้เสียหายชาวจีนกลุ่มนี้ สันนิษฐานว่า กลุ่มชาวจีนน่าจะทำสิ่งผิดกฎหมาย เพราะต้องการแลกเงินสดมาใช้จ่ายในประเทศไทย จึงไปก่อเหตุเพื่อข่มขู่รีดเงิน เมื่อผู้เสียหายเห็นว่าเป็นตำรวจจริงจึงยอมโอนเงินให้ ส่วนกลุ่มผู้เสียหายทำธุรกิจผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ขณะนี้ ได้ประสานกับตม. และสถานทูตฯ เพื่อขอทราบรายละเอียดการเดินทาง และประวัติเพื่อทำการตรวจสอบเเล้ว



ล่าสุด มีรายงานว่าในจำนวน 6 คนที่มีภาพปรากฏในวงจรปิด ล่าสุด มี 2 คนถูกออกหมายเเล้ว คนเเรกพลเรือน ชื่อนางสาวจารุเนตร อายุ 33 ปี อีกคนเป็นชาวจีน อายุ 45 ปี ชื่อนายหยาง ฉิวเจี๊ยน ส่วนอีก 4 คน พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่ม

คุณอาจสนใจ

Related News