ก.อุตสาหกรรม ลงตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โกดัง อ.ภาชี ย้ำเร่งของบกลางแก้ปัญหาย้ายกากสารเคมี

กรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงการเรียกประชุมชี้แจง กรณีย้ายกากแคดเมียม กลับไปฝังกลบจังหวัดตาก โดยระบุว่าปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่าจะย้ายและฝังกลบแคดเมียมแล้วเสร็จภายใน 30 กันยายนนี้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามความคืบหน้าการดับเพลิงที่ ไหม้โกดังเก็บสารเคมี โดยย้ำว่าเร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบพร้อมกัน กับจังหวัดที่เกิดปัญหาจากผู้ประกอบการรายเดียวกัน โดยและจะเร่งของบกลางมาเร่งแก้ปัญหาย้ายกากสารเคมี ไปกำจัดโดยเร็ว


นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ติดตามการดับเพลิงที่ลุกไหม้ ในโกดังหลังที่ 3 หลังที่ 4 และ 5 ซึ่งเก็บกากสารเคมี ของกลางในคดีไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม สนับสนุนการแก้ปัญหาร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เป็นทีม บัญชาการเหตุการณ์ดับเพลิง


นอกจากนี้ ยังระบุว่าเดิมโกดังเก็บสารเคมีนี้ มีงบประมาณอยู่ส่วนหนึ่งประมาณ 6 ล้าน 9 แสนบาท เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น ด้วยการคัดแยกและย้ายสารเคมีอันตราย ออกจากโกดังก่อน หลังจากเกิดเพลิงไหม้เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ก็มาเกิดเหตุเพลิงไหมขึ้นอีก จากนี้จะต้องเร่งแก้ปัญหาร่วมกับส่วนราชการอื่นๆ


โดยเฉพาะกรณีพบความเชื่อมโยงทั้งโกดังบริษัท วิน โพรเสส จังหวัดระยอง กับโกดังในอำเภอภาชี และอีกหลายจังหวัดที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกัน โดยจะของบประมาณกลาง แต่ต้องมีแผนงานที่ชัดเจนเพื่อนำเสนอของประมาณ เช่นกรณีโกดังที่อำเภอภาชี หากต้องย้ายออกไปทั้งหมดต้องใช้งบประมาณกว่า 70 ล้านบาท


สำหรับสถานการณ์เพลิงไหม้ในโกดัง แม้ว่าเพลิงจะสงบลงแล้ว แต่ยังมีกลุ่มควันอยู่ในโกดังหลังที่ 4 และ 5 ซึ่งการเข้าไปดับค่อนข้างยากและอันตราย เพราะต้องลุยฝ่ากอง ถังสารเคมีเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงใช้รถดับเพลิงกระเช้าขึ้นไปฉีดโฟมสลับกับน้ำเป็นระยะ เพื่อควบคุมเพลิงจากด้านบนหลังคา หวังจะให้ควันไฟสงบโดยเร็ว เพื่อจะให้ประชาชนโดยเฉพาะโรงพยาบาลไม่ได้รับผลกระทบ


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไปตรวจสอบการป้องกันรักษาความปลอดภัยที่บริษัทซันเทค เคมิคอล แอนด์ โลจิสติก อำเภออุทัย ซึ่งพบการลักลอบเก็บกากสารเคมี ไว้หลายชนิด เชื่อมโยงกับบริษัทเอกอุทัย โดยกรณีบริษัทซันเทคฯ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ออกคำสั่งปิดโรงงาน ทำให้มีผลเพิกถอนใบอนุญาต รง.4 ไปแล้ว พร้อมกับสั่งให้นำ กากของเสียอันตราย 8,500 ตันไปทำลาย


จากนั้นไปตรวจสอบที่บริษัทเอกอุทัย ตำบลสามบัณฑิต ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ที่ผ่านมา มีการทำปฎิกิริยาระหว่างกรดซันฟูริก กับโลหะ ทำให้เกิดไอระเหยคล้ายกลุ่มควันเหม็นฉุน จนชาวบ้านกังวลใจว่าจะเกิดเพลิงไหม้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ให้โรงงานนี้ออกไปกำจัดเร่งด่วน


นางสาวพิมพ์ภัทรา ได้แจ้งชาวบ้านว่า กรมฯได้ออกคำสั่งและปิดประกาศเมื่อเช้านี้ให้โรงงานบริษัทเอกอุทัย นำกากขยะออกไปกำจัดภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการ ภาครัฐจะเข้ามาดำเนินการเอง และฟ้องเรียกเงินจากผู้ประกอบการทั้งหมด สำหรับประเด็นว่า นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม แจ้งต่อที่ประชุมกรรมาธิการการอุตสาหรรม สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ว่าได้ยื่นลาออกจากราชการ แล้วนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่ายังไม่ได้รับหนังสือหรือรับแจ้งโดยตรง แต่ยืนยันว่าไม่เคยกดดันมีแต่ให้กำลังใจในการทำงาน ส่วนอธิบดีฯจะลาออกด้วยเหตุผลใด ต้องรอให้อธิบดีฯชี้แจงเอง


อีกด้านหนึ่งนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการ การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวผลการเรียกประชุมชี้แจง กรณีขนย้ายกากแคดเมียม และกรณีไฟไหม้โรงงานกากสารเคมี โดยระบุว่ากรณีกากแคดเมียม ที่จะลำเลียงไปจงหวัดตากนั้น นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่าขั้นตอนการย้าย และลำเลียงมีความรัดกุม โดยมั่นใจว่าการขนย้ายและฝังกลบจะแล้วเสร็จภายใน 30 กันยายน โดยงบประมาณทั้งหมด จะเรียกเก็บจากผู้ประกอบการ ขณะเดียวกัน กรรมาธิการได้แสดงความเป็นห่วงในแต่ละขั้นตอน การฝังกลบ จึงขอให้กระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งไปยังผู้ประกอบการ ให้ทำ EIA การทำบ่อเพิ่มเติมรองรับไว้ด้วย