สังคม

ชาวเมียนมาหนีภัยการสู้รบ ทยอยเดินทางกลับเมียวดี หลังการปะทะไม่รุนแรง

โดย panisa_p

22 เม.ย. 2567

47 views

ผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา ทยอยเดินทางกลับเมียวดี หลังสถานการณ์วันนี้ไม่รุนแรง คงเหลือในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 1 แห่งในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 906 คน ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมาที่อำเภอแม่สอดวันพรุ่งนี้ หลังจากนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ บริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา ด้านโฆษกนายกรัฐมนตรีรัฐบาล NUG ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ยืนยันว่าปฏิบัติในเมืองเมียวดีคำนึงถึงผลกระทบกับประชาชนมากที่สุด



ผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา ที่อพยพมายัง อ.แม่สอด จ.ตาก ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ทยอยเดินทางกลับไปยังเมืองเมียวดี ทั้งจากพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวท่าข้ามสินค้า 25 จำนวน 791 คน เดินทางกลับไปหมดแล้ว และอีกกว่า 500 คน จากพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวท่าทรายรุจิรา คงเหลือ 906 คน โดยทางการไทยนำรถมาส่งที่ท่าข้ามสินค้าบ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ทั้งหมดจะเดินข้ามแม่น้ำเมย ไปยังเมืองเมียวดี ซึ่งพบว่ามากันเป็นครอบครัว มีผู้สูงอายุ และเด็ก มีการนำสิ่งของบริจาคที่ทางการไทย นำมาช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกลับไปด้วย



สาเหตุที่มีการเดินทางกลับเพราะไม่มีการปะทะที่ด่านเมียวดี 2 มาเป็นวันที่ 2 แล้ว ผู้อพยพจึงขอกลับไปดูแลบ้านและครอบครัว หากสถานการณ์รุนแรงก็จะอพยพมาใหม่เพื่อความปลอดภัย เพราะยังต้องจับตาสถานการณ์ไปอีกระยะ เนื่องจากกองกำลังผสม KNLA/PDF ระดมกำลังไปสกัดกั้นทหารเมียนมาที่เมืองก็อกกาเร็ก บริเวณถนนไฮเวย์ทางเข้ามายังเมืองเมียวดี เป็นภารกิจหลักในการป้องกันการยึดเมืองเมียวดีคืน



ศูนย์สั่งการชายแดนไทย - เมียนมา จังหวัดตาก ได้รายงาน สถานการณ์ ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. เกิดการปะทะ ในพื้นที่ตอนในฝั่งเมียนมา ห่างจากแนวชายแดนไทย เป็นระยะทาง ประมาณ 4-10 กิโลเมตร ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา มีการใช้อาวุธหนักของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่บ้านผาลู เมืองเมียวดี ตรงข้ามบ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก และบริเวณบ้านบาโบ อำเภอซูการี จ.เมียวดี ตรงข้าม บ้านหมื่นฤาไชย อ.พบพระ จ.ตาก ไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนบริเวณแนวชายแดน และไม่พบการปะทะที่ด่านพรมแดนเมียวดี 2



โดยมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา สมัครใจเดินทางกลับ 1,348 คนคงเหลือ 983 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง คือพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวท่าทรายรุจิจา คงเหลือ 906 คน และพื้นที่ปลอดภัยบ้านหนองหลวง อ.อุ้งผาง จำนวน 77 คน ทุกหน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองยังคงให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและด้านสาธารณสุข



ซึ่งวันนี้นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่โรงพยาบาลแม่สอด ตรวจเยี่ยมการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน รองรับผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์การสู้รบในเมืองเมียวดี ซึ่งโรงพยาบาลแม่สอดสามารถรับมือได้ ยังไม่วิกฤต ที่ผ่านมามีผู้บาดเจ็บมารักษาตัวสะสม 113 คน ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเครือข่าย คงเหลือ 82 ราย ผ่าตัดไปแล้ว 29 ราย เฉพาะช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บมารักษา 48 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ซึ่งให้การรักษาตามหลักมนุษยธรรมไม่เลือกปฏิบัติ



ส่วนด่านพรมแดนมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ฝั่งไทยยังเปิดปกติ ส่วนฝั่งเมียวดีปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากระบบขั้ดข้อง ขณะที่ด่านมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ปิดชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะปกติ



ข่าว 3 มิติได้สัมภาษณ์ นายเน โพน ลัต โฆษกนายกรัฐมนตรี NUG รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวเมียนมา จากกรณีล่าสุดที่เกิดการสู้รบในเมืองเมียวดี NUG ในฐานะรัฐบาลประชาชนเมียนมา พยายามทำทุกทางที่ทำได้ เพื่อนำไปสู่สันติภาพใมเมียนมา จึงขอขอบคุณรัฐบาลไทย และทหารไทยที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้ลี้ภัยชาวเมียนมา เราพร้อมจะทำงานร่วมกันเพื่อร่วมสร้างสันติภาพที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนไทยและเมียนมา



โฆษกนายกรัฐมนตรี NUG เปิดเผยว่า ปฏิบัติการทางทหารในเมืองเมียวดี กองทัพประชาชน PDF ซึ่งเป็นทหารของกระทรวงกลาโหม NUG ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU จนสามารถยึดฐานทหารเมียนมาของรัฐบาลเผด็จการทหาร SAC ได้ แต่เราจะยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไปสู่เป้าหมาย ซึ่งเหตุที่ยืดเยื้อเพราะไม่อยากให้กระทบกับประชาชนโดยเฉพาะจากปฏิบัติการทางอากาศของรัฐบาลเมียนมา



โฆษกนายกรัฐมนตรี NUG เปิดเผยว่า แม้ในสภาพเมืองเมียวดี ระบบราชการล่มไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่รัฐบาล NUG และ KNU จะยังไม่เข้าไปบริหารการปกครองในเมืองเมียวดี เพราะต้องรอให้ ปฏิบัติการทางการทหารแล้วเสร็จ ซึ่งยังคาดเดาเวลาไม่ได้ สิ่งที่ทำควบคู่ไปคือการหยุดทหารราบของเมียนมา คือการเรียกร้องให้นานาชาติมีการแทรกแซงการขายน้ำมันให้เครื่องบินกองทัพเมียนมา ซึ่งเป็นเพียงยุทธศาสตร์ทางการรบเดียวที่รัฐบาลทหารเมียนมาจะใช้โจมตีกองกำลังชาติพันธุ์ได้



โฆษกนายกรัฐมนตรี NUG มองว่าการให้รัฐบาลทหารเมียนมา ประกาศยอมแพ้ศึกในเมียวดี อาจเป็นเรื่องยาก แต่เรายังต้องทำต่อไป การร่วมมือกับกองกำลังชาติพันธุ์ในหลายรัฐ ทำให้ฝ่ายประชาชนชนะไปกว่า 60 % แล้ว จึงยังมีความหวัง และเตรียมการสำหรับแผนการบริหารจัดการเมืองเมียวดี หากได้รับชัยชนะ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU จะเป็นผู้บริหารการปกครองในเมียวดี ส่วน NUG จะปกครองในระดับรัฐที่จะร่วมมือกันไปสู่เป้าหมายการปกครองแบบสหพันธรัฐ ซึ่งกำลังมีการเจรจาทางการเมืองกับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ด้วย



ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการเดินทางมายังอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นรองประธาน ร่วมกับปลัดกระทรงกลาโหม ต่างประเทศ มหาดไทย ผบ.เหล่าทัพ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นฝ่ายเลขานุการ จะมีการประชุมนัดแรกในวันพรุ่งนี้ก่อนที่นายปานปรีย์ จะมาลงพื้นที่อำเภแม่สอดในช่วงบ่าย

คุณอาจสนใจ

Related News