สังคม

ทนาย 'บิ๊กโจ๊ก' จ่ออุทธรณ์ คำสั่งออกราชการ ชอบด้วยกม.หรือไม่ ด้านชุดทำคดีเว็บพนัน หอบสำนวนยื่นป.ป.ช.

19 เม.ย. 2567

44 views

คดีของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังจากเมื่อวานนี้ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน วันนี้มีความเห็นมาจากนายกรัฐมนตรี และทีมทนายความของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ขณะที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปยื่นสำนวนคดีให้ ป.ป.ช.รับไว้ดำเนินการไต่สวนชี้มูลความผิดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป



เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวก ในข้อหาความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน



พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผู้กำกับ(สอบสวน) สน.สายไหม ในฐานะคณะพนักงานสืบสอบสอบสวนคดีนี้ เดินทางไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อยื่นสำนวนคดีให้ ป.ป.ช. พิจารณารับคดีไว้ดำเนินการไต่สวนชี้มูลความผิดตามขั้นตอนของกฎหมาย



พ.ต.ท.สราวุธ เปิดเผยว่า คดีเว็บพนัน BNK Master 2 สำนวน รวม 22 ผู้ต้องหา โดยสำนวนแรกคือส่วนที่ดำเนินคดี พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ พร้อมพวกในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ม.149 และ 157 และสำนวนที่2 คดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกดำเนินคดีในข้อหาสมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน และสำนวนดังกล่าว เป็นพยานหลักฐานชุดเดียวกันที่ยื่นต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับ พล.ต อ.สุรเชษฐ์ และผู้ต้องหารายอื่น ๆ ซึ่งเพียงพอที่จะให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาชี้มูลความผิดได้



ส่วนกรณีที่วันที่ 27 เมษายนนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังต้องเดินทางมารายงานตัวและให้ปากคำกับคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเหมือนเดิมหรือไม่นั้น พ.ต.ท.สราวุธ เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะไม่มีอำนาจการสอบสวนในคดีนี้แล้ว แต่ตามกำหนดการเดิม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังสามารถที่จะเดินทางมายื่นพยานหลักฐานผ่านพนักงานสอบสวน เพื่อส่งต่อมายัง ป.ป.ช. หรือจะเดินทางมายื่นหลักฐานต่อ ป.ป.ช. ด้วยตนเองก็ได้ ซึ่งจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการแจ้งเลื่อนการเข้าพบคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่อย่างใด



ทางด้านนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทนผบ.ตร. ลงนามคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อนว่า ขณะนี้หนังสือยังมาไม่ถึงพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ คาดว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ เท่ากับยังไม่มีการแจ้งให้ตัวผู้ถูกออกคำสั่งทราบ แต่หากได้รับหนังสือแล้ว เชื่อว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์ตามกระบวนการกฎหมายแน่นอน แต่ต้องดูว่าในหนังสือระบุตามสิทธิ์อย่างไร ให้ยื่นอุทรณ์ที่ไหนเมื่อไร



นายวราชันย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คดีที่มีการดำเนินคดีก็ส่วนหนึ่ง คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเป็นเรื่องทางปกครองก็ส่วนหนึ่ง ว่ากันไปตามกระบวนการ เรื่องทางคดีจะมีรายละเอียดอื่นๆที่ซับซ้อน แต่อย่างที่เคยแถลงไว้ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีความมั่นใจในส่วนของตัวเอง ว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นไม่ได้รับความเป็นธรรม



หลังจากนี้ ทีมทนายความจะต้องตรวจสอบคำสั่ง หากไม่เป็นไปตามกฎหมาย การออกคำสั่งที่ไม่ชอบทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ก็มีสิทธิ์ร้องทุกข์ และผู้ออกคำสั่งจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 157 ได้ แต่ทั้งหมดนี้ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง



ขณะเดียวกันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวก่อนเดินทางลงพื้นที่ภูเก็ต ว่า 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจสอบเรื่องนี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ ก็ได้มาพูดคุยกับตนเพื่อขอให้ส่งตัวพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์กลับต้นสังกัด เพื่อจะได้ไปดำเนินการ



ส่วนเกี่ยวข้องกับผลของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าคณะกรรมการชุดนี้ยังตรวจสอบอยู่ มีอีกหลายเรื่องที่จะต้องตรวจสอบต่อ ทั้งในส่วนของ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แต่คำสั่งที่ออกมาเมื่อวานนี้เป็นคนละคดีกัน



ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่อยากไปกดดัน กระบวนการยุติธรรมไม่มีใครไปก้าวก่ายหรือเร่งรัดอะไร เข้าใจในความสามารถและความเป็นมืออาชีพของคณะกรรมการ ทั้ง 3 คน เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตาอยู่



ส่วนความคืบหน้ากรณีของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ที่อาจจะถูกนำมาเปรียบเทียบกันกับกรณีของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ นายกรัฐมนตรีระบุว่าเชื่อว่าแต่ละกรณีก็มีความแตกต่างกันไป มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน



อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางครั้งนี้ มีพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ร่วมเดินทางไปกับนายกรัฐมนตรีด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News