ตรวจยึดรีสอร์ตเขาค้อ พบผู้ครอบครองเป็นอดีตทหาร 'พันโท' ไร้ขออนุญาตสร้าง เร่งขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง

ปัญหาบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่า ก็ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ กอ.รมน. ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เข้าตรวจยึดเเละดำเนินคดีกับรีสอร์ท-ที่พัก ใกล้บริเวณอ่างเก็บน้ำ ในอ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เเละยังก่อสร้างใกล้กับเเปลงบุกรุกที่คณะเจ้าหน้าที่เคยเข้าไปตรวจยึดดำเนินคดีมาเเล้ว ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ผู้ครอบครองซึ่งเป็นอดีตทหารยศพันโท ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้าง เเละก็ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงเเรม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลต่อว่า มีใครบ้างที่เกี่ยวข้อง



ปฏิบัติการครั้งนี้ นำโดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดยนายสมชาย ฉิมแย้ม เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเป้าหมายในเขตป่าริมทางหลวงหมายเลข 12 ซึ่งด้านหลังรีสอร์ทติดกับสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำชุนใหญ่ ในท้องที่ หมู่ 7 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หลังมีประชาชนร้องเรียน พบการก่อสร้างอาคารที่พัก-รีสอร์ท เเละทำร้านกาเเฟ



เจ้าหน้าที่พบว่า จุดนี้อยู่ติดกับเเปลงบุกรุกที่เคยถูกคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดเเละดำเนินคดีกับผู้ครอบครองมาเเล้ว



ระหว่างนั้น มีอดีตนายทหาร ยศพันโท อายุ 65 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน เจ้าหน้าที่จึงให้นำชี้ขอบเขตเพื่อจับค่าพิกัดและสอบปากคำ



ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอยู่ในเขตป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 เป็นพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 2 อยู่ในโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2546 เพื่อป้องกันและบรรเทาความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2544 จำนวนเนื้อที่ 132,626 ไร่



และบริเวณที่กำลังก่อสร้าง ก็ไม่ได้มีการสำรวจการถือครองตามมติ ครม.30 มิ.ย.41 แต่มีการสำรวจข้อมูลการถือครองที่ดินเมื่อปี 2559 พร้อมระบุชื่อผู้ครอบครอง



ตรวจสอบพื้นที่ติดกับร้านค้า พบตึก 2 คูหา 3 ชั้น มีห้องพักรวม 6 ห้อง ด้านหลังทำเป็นระเบียงชมวิวอ่างน้ำ หลังร้านค้าและตึกที่เป็นหน้าผาลาดชัน มีการก่อสร้างอาคารถาวรเสาเหล็กพื้นแผ่นคอนกรีต 3 ระดับ ทำเป็นฐานสร้างห้องพักเป็นโดมขนาดใหญ่ 12 หลัง และฐานกางเต็นท์อีก 7 ห้อง



จากการนำชี้ขอบเขตของอดีตนายทหารรายนี้ จับค่าพิกัดได้เนื้อที่ 5 - 3 - 24 ไร่ ซึ่งเป็นการขยายออกไปจากที่ทำกินเดิม



เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายปี 2545 และปี 2563 พบว่าบริเวณจุดนี้ มีการทำประโยชน์มาก่อน แต่เริ่มปรากฏร่องรอยการปรับพื้นที่สร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2563 ซึ่งหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ระบุว่า นี่เป็นการบุกรุกป่าใหม่หลังปี 2557 จึงไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามตามมติ ครม. 26 พ.ย. 2561 นอกจากนี้ยังตรวจสอบกับเทศบาลตำบลแคมป์สน ทราบว่าไม่มีการขออนุญาตก่อสร้าง



ขณะที่คนงานดูแลรีสอร์ท 2 คนให้การตรงกันว่า เจ้าของอยู่กรุงเทพฯ เปิดบริการที่พักโรงแรม คิดค่าบริการโดมหลังละ 6,000 บาท/คืน ล่าสุด ตรวจสอบกับอำเภอเขาค้อ ก็ไม่พบว่ามีใบอนุญาตกิจการโรงเเรมหรือที่พัก



จึงตรวจยึดพื้นที่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 874,500 บาท แจ้งดำเนินคดีกับผู้ครองครองเเละผู้ที่เกี่ยวข้อง ในความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เเละพ.ร.บ.โรงเเรม ทำบันทึกตรวจยึดส่งพงส.สภ.เขาค้อ เพื่อติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี



เต่ที่น่าสังเกตก็คือ 1 วันก่อนเข้าปฏิบัติการ จนท.เข้าสืบทางลับพบว่าในบริเวณที่ตรวจสอบ มีบุคคลลักษณะคล้ายพลทหาร จึงมีการตั้งคำถามว่า นี่ใช่ทหารหรือไม่ เเละถ้าใช่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรืออาจมีนายทหารยศใหญ่ รู้จักหรือเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่