'ทนายตั้ม' มอบหลักฐานส่วย 'บิ๊กเต่า' ยันไม่ลำเอียง หากผิดจริงใหญ่แค่ไหนก็จับ

กรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ออกมาเปิดข้อมูลการรับส่วยและเส้นเงินจากบัญชีม้า โดยพาดพิงไปถึงนายตำรวจระดับสูง และผู้ใต้บังคับบัญชาจาก 3 หน่วยงาน ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจมีส่วนพัวพันกับเส้นเงินที่ได้มาจากกลุ่มธุรกิจสีเทา



ล่าสุด นายษิทรา ได้นำข้อมูลหลักฐานไปยื่นกับ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมบันทึกประจำวัน ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยมี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มารับเอกสารด้วยตัวเอง ยืนยันว่า "ไม่ได้เป็นคนของใคร และพร้อมตรวจสอบทุกคน เพราะไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง" ส่วน"ทนายษิทรา" บอกว่า ยังมีข้อมูลและเตรียมจะแฉต่อหลังจากนี้



นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน นำเอกสารที่ระบุว่า นี่คือหลักฐานขบวนการรับส่วยและเส้นทางการเงิน ที่โยงไปถึงนายตำรวจระดับสูงกับลูกน้อง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบให้กับ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง



พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า จากนี้จะส่งพยานหลักฐานให้ บก.ปปป.ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน รวมถึงตรวจสอบเส้นเงินมีความเชื่อมโยง ไปถึงบุคคลใด และจะต้องเรียกใครมาให้ปากคำบ้าง



ตอนนี้ไม่ได้กังวลเรื่องพยานหลักฐาน เพราะทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์-ตรวจสอบได้ หากเชื่อมโยงถึงใครก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และย้ำว่าจะตรวจสอบทุกมิติ



พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังพูดถึงกรณีที่มีบางกระแสตั้งข้อสังเกตและบอกว่า เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาสายตรงของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ จะมีผลต่อการสืบสวนหรือไม่ โดยยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนของใคร มาถึงจุดนี้ได้ก็ด้วยความสามารถและอุดมการ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง



ขณะที่นายษิทรา ให้เหตุผลที่มาวันนี้ มาในฐานะประชาชนที่พบการกระทำความผิด จึงนำหลักฐาน ทั้งที่เป็นแชทข้อความ สลิปโอนเงิน สเตทเม้นท์ รวมถึงเส้นทางการเงินจากบัญชีม้าเว็บพนันออนไลน์ ที่ปรากฏข้อมูลการโอนต่อไปให้ตำรวจหลายนาย และหนึ่งในนั้นยังรวมถึงอดีตอุปนายกสมาคมแห่งหนึ่ง รวมไปถึงเครือญาติของนายตำรวจระดับสูงด้วย วันนี้ยังไม่แจ้งความ แต่เป็นการนำหลักฐานมาให้ตรวจสอบในกรอบระยะเวลา 30 วัน



นายษิทรา ยอมรับว่าข้อมูลนี้ ได้จากสายลับที่ทนกับระบบไม่ได้จึงส่งข้อมูลมาให้ แต่ในส่วนนี้ยังไม่โยงถึง พล.ต..สุรเชษฐ์ แต่หากมีผู้นำข้อมูลที่พบว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องทำเช่นกัน



นี่เป็นเพียงบางส่วนที่มีการเปิดเผย และมอบให้ตำรวจสอบสวนกลาง โดยก่อนจะเข้าไปให้รายละเอียด นายษิทราย้ำทิ้งท้ายว่า ยังมีข้อมูลที่เตรียมงัดออกมาแฉต่อหลังจากนี้