ระทึก ชายขับรถพุ่งชนรถตร. ก่อนเสียหลักตกถนน พบเป็นผู้ใกล้ชิดนักการเมือง หนีคดียาเสพติด

ผู้ใกล้ชิดนักการเมืองในจังหวัดนครศรีธรรมราช ขับรถหลบหนีตำรวจทางหลวง หลังถูกเรียกตรวจ และขับพุ่งชนรถตำรวจทางหลวงได้รับความเสียหาย สุดท้ายรถผู้ต้องหาเสียหลักตกถนน พบหนีศาลคดียาเสพติด



ทางหลวงชุมพร ซึ่งออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ถนนเพชรเกษม สังเกตเห็นรถยนต์ต้องสงสัย ขับแซงรถวิทยุตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้ารถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถหยุด เมื่อรถคันดังกล่าวหยุด เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจภายใน พบชายฉกรรจ์ 4 คน นั่งอยู่ในรถคัน ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจบัตรประชาชน



พบชายฉกรรจ์ เคยมีประวัติคดียาเสพติดระหว่างนั้น เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อนายพงค์พันธ์ หรือหนอน ไม่ยินยอมให้ตรวจ โดยอ้างว่าไม่ได้พกบัตรประชาชนมา เจ้าหน้าที่จึงขอเชิญตัวนายพงค์พันธ์ฯ ไปทำการตรวจสอบประวัติบุคคลที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร แต่เมื่อนายพงค์พันธ์ฯ เห็นว่าเจ้าหน้าที่จะทำการเชิญตัวตนเองไปตรวจสอบ จึงวิ่งขึ้นรถและขับหนี



โดยทิ้งเพื่อนอีก 3 คนไว้ข้างถนน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถวิทยุตรวจการติดตามไป เมื่อเห็นตำรวจติดตามจึงลงรถมาโวยวาย และขับหนีไปด้วยความเร็วสูง ตำรวจทางหลวงจึง แจ้งให้รถวิทยุตรวจการณ์อีกคัน ช่วยสกัดจับเมื่อรถวิทยุตรวจการณ์ ขับติดตามมาทัน นายพงค์พันธ์ฯ มีพฤติกรรมชะลอรถ เพื่อจะถอยหลังชนรถของเจ้าหน้าที่ และพยายามกลับรถเพื่อจะวิ่งพุ่งชนรถของตำรวจ จนเป็นเหตุให้รถวิทยุตรวจการณ์หักหลบลงไหล่ทาง ได้รับความเสียหายไม่สามารถวิ่งติดตามต่อไปได้



รถสายตรวจอีกคัน จึงไล่ติดตามไปจนถึง ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร พบรถต้องสงสัยกำลังกลับรถ และขับสวนเลนมาชนรถของเจ้าหน้าที่ให้เสียหาย เพื่อเปิดทางหลบหนี แต่เมื่อรถของนายพงค์พันธ์ฯ ชนกับรถวิทยุตรวจการณ์แล้ว ได้เกิดเสียหลักพุ่งตกลงข้างทางไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวนายพงค์พันธ์ไว้ได้



หลังควบคุมตัวนายพงค์พันธ์ฯ ได้แล้ว พบว่าเป็นผู้ใกล้ชิดนักการเมืองคนหนึ่งใน จังหวัดนครศรีธรรมราช เคยต้องโทษคดีฆ่าผู้อื่นและเคยถูกจำคุกพ้นโทษออกมา ปัจจุบัน​ มีหมายจับ คดี ยาเสพติด และอาวุธปืน แต่หลบหนีไม่ไปฟังคำตัดสิน จึงถูกศาลทุ่งสงออกหมายจับ



จากการสอบถาม พ.ต.อ ภคพล สุชล ผู้กำกับการทางหลวง2 ระบุว่าตำรวจทางหลวงได้ปฏิบัติตามยุทธวิธี ที่พล ตท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเน้นย้ำมาตลอด เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ซึ่งคดีนี้ ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติตามหน้าที่ เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษ ขับขี่รถเจตนาทำเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย



หลังจากจับกุมได้จึงส่งตัวไป สภ.บ้านในหูต และแจ้งผลการจับกุมไปยังศาลจังหวัดทุ่งสง ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน นอกจากอาชญากรรมบนท้องถนนแล้ว



หลังจากนายกรัฐมนตรี สั่งให้เข้มงวดตามแนวชายแดน ในความรับผิดชอบของทางกำกับการทางหลวง2 ซึ่งมีพื้นที่เฝ้าระวัง ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี ร่วมกับ สภ ทองผาภูมิ ตม.กาญจนบุรี จับรถต้องสงสัย ทั้งรถกระบะ และรถเก๋ง ทั้ง หมด 5 คัน ขับมาช่วงกลางคืน



โดยล่าสุด เป็นรถเก๋ง ได้ขับผ่าด่านหลบหนี เมื่อตรวจค้นรถ พบแรงงานต่างด้าวแน่นเต็มคันรถ รถเก๋ง1 คัน มีคนถึง17 คน โดยรถ 5 คัน ที่จับได้ พบคนต่างด้าวถึง 71 คน คนนำพา 12 คน ซึ่งหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเตรียมส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป