'บิ๊กต่อ' ไม่เครียด ถูกพาดพิงเส้นเงินส่วย มองเป็นการดิสเครดิต มอบทนายจัดการแล้ว

คืบหน้า หลังจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ"ทนายตั้ม" ออกมาเปิดเผยข้อมูลการเรียกรับผลประโยชน์เเละเส้นเงินจากบัญชีม้า ที่อ้างว่า เชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจระดับสูงกับผู้ใต้บังคับบัญชา 3 หน่วยงาน



ล่าสุดวันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ สั่งย้ายตำรวจ 2 นาย พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีส่วย ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ เปิดใจผ่านทางโทรศัพท์ โดยมองว่าเรื่องนี้เป็นการดิสเครดิต ไม่ได้เครียดหรือกังวลอะไร เบื้องต้นได้มอบหมายทนายความรวบรวมข้อมูลเเล้ว ส่วนทนายตั้ม บอกว่า เตรียมใจมาเเล้วว่าจะถูกฟ้องกลับ แต่ขอให้ออกมาชี้แจงด้วยว่าข้อมูลตรงไหนไม่จริง เเละย้ำว่า อย่าดำเนินคดีสองมาตรฐาน



พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่"นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม" แถลงเปิดโปงขบวนการรับส่วย และเส้นทางการเงินที่พาดพิงถึง ดาบตำรวจอภิชาต หรือ ดาบยาว และ พันตำรวจโท สุรกุล หรือ รองฟาง โดยบอกว่าขณะนี้ ได้มีคำสั่งให้มาประจำที่ ศปก.สอท. และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงย้อนหลังตามที่ถูกพาดพิง แต่ส่วนตัวยังไม่ได้สอบถามตำรวจทั้ง 2 นาย



ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติม กรณีที่มีการพาดพิงจากการแถลงของทนายตั้ม โดยอ้างว่า มีการใช้ห้องใน สอท.เพื่อส่งยอดและรับเงินส่วยทุกวันที่ 25 ของเดือน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร



พลตำรวจโทวรวัฒน์ ระบุว่า "ไม่ใช่ ห้องนั้นเป็นห้องของผู้บังคับบัญชา เป็นห้องรองผู้บัญชาการจะเข้าไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร" โดยยืนยันว่า ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานก็พร้อมให้ตรวจสอบ



ขณะที่ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดใจกับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 ผ่านทางโทรศัพท์ถึงประเด็นนี้ โดยบอกว่า "ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัด เบื้องต้นมอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนจะฟ้องทนายตั้มหรือไม่นั้น พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ บอกว่ายังไม่รู้เลย เพราะทำแต่งาน ประกอบกับไม่ค่อยสบายด้วย พร้อมกับย้ำว่า "ไม่ได้เครียดหรือกังวล เเละมองว่าเป็นการดิสเครดิตไปเรื่อย ไม่ได้ให้น้ำหนักอะไรอยู่แล้ว



ขณะเดียวกัน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมายืนยันผ่านเฟซบุ๊คว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการแถลงข่าว ในวันที่ 1 เมษายนนั้น ไม่เป็นความจริง ขอให้สื่อได้หยุดนำเสนอข่าวดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง อยากให้ร่วมกันสร้างความสามัคคีร่วมกัน



ส่วนประเด็นที่มีการโพสต์พาดพิงถึงบุคคลในสมาคมนักข่าวฯ อักษรย่อ ว.เเหวน เกี่ยวข้องกับการรับเงินเครือข่าบเว็บพนัน วันนี้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์เเห่งประเทศไทย ได้ชี้เเจงผ่านเว็บไซต์สมาคมฯ โดยนายจีรพงษ์ ประเสิรฐพลกรัง เลขาเเละโฆษกฯ เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯไม่ได้เป็นคู่ขัดเเย้งกับเจ้าของโพสต์ พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลตามที่โพสต์ใน 2 ประเด็น



1.รายชื่อกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน ที่เริ่มทำงานเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 มีชื่อจริงขึ้นต้น ว.เเหวน 4 คน จากการตรวจสอบภายในทั้ง 4 คนนี้ ยืนยันในความบริสุทธิ์เเละพร้อมให้ตรวจสอบ พร้อมเรียกร้องให้ผู้โพสต์เปิดเผยชื่อ-สกุล ของบุคคลที่กล่าวอ้างเพื่อความชัดเจน



2.กรณีระบุเลขบัญชี ธนาคารกสิกรไทย จากการตรวจสอบฝ่ายบัญชีของสมาคมฯ ยืนยันว่าสมาคมฯไม่ได้ใช้บัญชีกรสิกรไทย ใช้บัญชีเดียวคือ ธนาคารไทยพาณิชย์



จากข้อกล่าวหานี้ ทำให้ล่าสุด นายษิทรา หรือทนายตั้ม ออกมายืนยันว่า กรณีมีเส้นเงินไปถึงบุคคลตำแหน่งอุปนายกสมาคมฯในห้วงเวลานั้นจริง แต่ปัจจุบันทางสมาคมฯได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ทำให้อุปนายกคนที่มีเส้นเงินโยงไปถึง ไม่ได้ทำงานในตำแหน่งเดิมแล้ว ยืนยันว่า ทางสมาคมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นเพียงความผิดส่วนบุคคลเท่านั้น



นอกจากนี้ ยังเปิดใจถึงเส้นเงินที่เพิ่งโพสต์ไปว่า เมื่อวานนี้เพิ่งพบข้อมูลเส้นเงินใหม่ จากบัญชีม้าชื่อณัฐพล โอนทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเงิน 199,900 บาท และหลังจากนั้น 2 วัน ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ก็เดินทางไปทำบุญที่วัดดังกล่าว ซึ่งบัญชีม้านี้เป็นบัญชีเดียวกับที่เงินเว็บพนันโอนไปให้พี่ชาย พี่สาว และภรรยา ของนายตำรวจใหญ่ แต่พี่ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่รับราชการ และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่าเงินถูกโอนตรงไปถึงนายตำรวจ ต.เต่า



วันพรุ่งนี้ จะไปยื่นเรื่องกับพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่หากยังนิ่งเฉยก็จะนำเรื่องไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อให้ทุกอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ยืนยันไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง