สังคม

'ทนายตั้ม' แฉส่วย 18 ธุรกิจโยง 'บิ๊กตำรวจ' ลั่นทำเพื่อประเทศ แม้รู้จะถูกฟ้อง

โดย panwilai_c

26 มี.ค. 2567

46 views

กรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน แถลงข่าวเปิดเผยข้อมูลเส้นทางส่วย ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับบุคคลใกล้ชิดนายตำรวจระดับสูง และการเรียกรับเงินจากธุรกิจสีเทา 18 ประเภท โดยนายษิทรากล่าวว่าการเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง



นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยก่อนแถลงข่าวว่ามาในฐานะเลขาธิการมูลนิธิ ทีมงานทนายประชาชน และได้ปรึกษาครอบครัวแล้ว เพราะเรื่องที่จะแถลงเกี่ยวกับนายตำรวจใหญ่ ที่ไม่มีใครอยากยุ่ง แต่ยืนยันว่าทำ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าท่านผู้พิพากษาดูอยู่ช่วยเห็นใจด้วย เพราะในอนาคตอาจจะถูกฟ้อง และการแถลงข่าววันนี้ไม่รู้ว่าจะช่วยให้ปัญหารับส่วยดีขึ้นไหม แต่อย่างน้อยให้ประชาชนได้รู้



นายษิทราเริ่มต้นการแถลงด้วยการเปิดตัวละครหลัก 3 คน คือ ดาบ ย. สังกัดคอมมานโด ทำหน้าที่รวบรวมเงินทุกทีมส่งข้างบน รอง ฟ. คนสนิทของบิ๊ก ต. นรต.รุ่น 61 รุ่นเดียวกับพ่อบ้านของบิ๊ก จ. และ บิ๊ก ต. นายตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ



จากนั้นเริ่มเล่าย้อนว่าในอดีต บิ๊ก ต. มีอำนาจดูแลเพียง 2 กองบังคับการ คือ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. และกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ หรือ คอมมานโด ต่อมาพลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง หรือบิ๊กแจง ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ได้เลื่อนขึ้นไปเป็นตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. บิ๊ก ต. จึงส่งลูกน้องเข้าไปดูแลงานใน สอท.แทน ซึ่งมีผลประโยชน์มากมายมหาศาล เพราะดูแลเว็บไซต์พนันออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ



และ 3 หน่วยงานนี้ คือ หน่วยงานหลักที่เก็บส่วยให้กับนายตำรวจระดับสูง หรือที่เรียกว่า ตีตั๋วจาก 18 ธุรกิจสีเทาและสีดำ ได้แก่ 1.เว็บพนัน 2.บ่อนการพนัน-ไพ่ 3.เงินกู้ไทย-แขก  4. หวยใต้ดิน 5.สถานบันเทิง สถานบริการ ผับ 6.ร้านวดแฝงขายบริการ 7. อาบอบนวด 8.โรงซาวน่า 9. ร้านเหล้าที่มีพีอาร์ 10. บุหรี่ไฟฟ้า 11. บุหรี่หนีภาษี 12. ตลาดนัด 13.สถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าว 14. จุดรับซื้อน้ำมันเถื่อน 15. น้ำมันเขียว 16. โต๊ะสนุก 17.แขกขายโรตี 18. คนขายยาและธุรกิจขายเซ็กซ์ออนไลน์



โดยมีทีมแม่บ้าน 5 ทีมทำหน้าที่ดูแลเรื่องเงิน แบ่งเป็นชุดที่เก็บเงินได้มากที่สุด คือ ชุดภาคตะวันออก มี "จ่า ก." เป็นหัวหน้าชุดแม่บ้าน ในทีมีดาบ ท. ดาบ พ. ดาบ ต. และดาบ จ. ส่งตั๋วเดือนละ 8-9 ล้านบาท ชุดที่ 2 ดูแลภาค 3 ภาค 4 และภาค 7 หรือโซนอีสานตอนบนกับภาคใต้ตอนบน มี "ดาบ ช." เป็นแม่บ้าน ชุดที่ 3 ดูแลภาค 1 หรือรอบกรุงเทพ และนครบาลบางพื้นที่ มี "ดาบ ส." เป็นแม่บ้าน



ชุดที่ 4 ดูแลภาค 5 และภาค 6 คือโซนภาคเหนือและอีสานตอนบน มี "ดาบ บ." เป็นแม่บ้าน และชุดที่ 5 ดูแลภาค 8-9 คือ โซนภาคใต้ พื้นที่นี้เก็บได้ไม่เยอะจึงใช้วิธีเหมาจ่าย เช่นเหมาเดือนละแสนเป็นต้น ที่เหลือเอาไป มี "ดาบ ย." เป็นแม่บ้าน



ทั้ง 5 สายจะโอนเงินเข้าบัญชีม้า 3 บัญชีหลัก ได้แก่ บัญชีชื่อ นายณัฐพงค์ และบัญชีชื่อนายมงคล มี "ดาบ ย." เป็นผู้ดูแล บัญชีชื่อ นายคชาชาญ มี "รอง ฟ." เป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ยังมี "จ่า ก." ที่ถือบัญชีม้าอีก 4 บัญชี เป็นบัญชีของคนตาย 2 บัญชี และทั้งหมดต้องส่งเงินให้นายตำรวจใหญ่ทุกวันที่ 25 ของเดือน



โดยจุดรับเงินมี 2 แห่ง คือ ที่ สอท. เมืองทองธานี ในห้องทำงานของ รองผู้บัญชาการ ซึ่งมีห้องทำงานของ รอง ฟ. อยู่ อีกจุกเป็นอาคารคอมมานโด กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ บอกว่าอยู่ที่ชั้น 6 ห้องในสุด คือ จุดที่รับเงินมี ดาบ ย. คอย



อีก 1 หลักฐานสำคัญที่เอามาเปิด คือ ภาพแชทไลน์ของทีมเก็บเงินที่คุยกับ ดาบ ย. ส่งหลักฐานการโอนเงินไป ซึ่งสลิปที่นำมาแสดงอยู่ในช่วงปี 2565



หลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ดาบ ย. และรอง ฟ. เกี่ยวพันแน่นอน คือ วงจรปิดวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ที่ปั้ม ปตท.แห่งหนึ่งจะเห็นชายคนหนึ่งที่ถูกระบุว่าเป็น "บัญชีม้า" ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่มีชื่อของ พ่อรอง ฟ. มากดเงิน และมีภาพของดาบ ย. มายืนกำกับด้วย



จากการตรวจสอบเส้นเงินพบว่า มีเส้นเงินของพิมพ์วิไล ผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน โอนเงินผ่านบัญชีม้าของตัวเอง ไปยังบัญชีของ "คชาชาญ" บัญชีม้าที่ "รอง ฟ." ถือ แล้วโอนต่อไปยัง พี่สาว ญาติ สมาคมนักข่าว และวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีด้วย และวัดแห่งนี้มีชื่อของ บิ๊ก ต. เป็นประธานทอดกฐินเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ด้วย



ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่ นายษิทรา ออกมาเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเรื่องนี้มีคณะกรรมการ

ตรวจสอบความจริงแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News