เปิดรูปแบบใหม่แก๊งคอลฯ ตั้งบ.บัญชีม้า ลวงเหยื่อสูญรวมกว่า 800 ล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นชาวจีน สัญชาติมาเลเซีย 2 ราย และหญิงไทย ซึ่งทำหน้าที่เปิดบริษัทจัดหาบัญชีม้า เพื่อขายให้กับกลุ่มจีนเทา โดยยังเปิดบัญชีม้าในลักษณะนิติบุคคล เพื่อให้เหยื่อหลงว่าเป็นบริษัทที่มีตัวตน จากการตรวจสอบพบว่ามีเหยื่อคนไทยสูญเงินไปกว่า 800 ล้านบาท ส่วนหญิงไทยที่ทำหน้าที่จัดหาบัญชีม้าถูกออกหมายจับฐานฉ้อโกง และขายบัญชีม้า



การเข้าตรวจค้นครั้งนี้หากพลาดกันแค่เสี้ยววินาที คนร้ายอาจหนีลอยนวลไปได้ แต่โชคดีทันที่ที่ลิฟท์เปิด คนร้ายซึ่งเตรียมหลบหนี ถูกล็อคตัวได้ทัน



ตำรวจสอบสวนกลางโดยตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. นำหมายศาลเข้าจับกุมนาย ลี อายุ26ปี ชาวจีน สัญชาติมาเลเซียได้ที่คอนโดหรู ย่านพระราม 9



และยังมีหมายจับ นส.ณัฐนิช อายุ 30 ปี แฟนสาวของ นายลี ได้ที่ห้องพัก โดยเบื้องต้น นส.ณัฐนิชทำทีปฏิเสธและขอดูหมายจับ



การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ทำให้เห็นว่า นายลี ซึ่งมาอยู่เมืองไทย มีแฟนสาวเป็นคนไทย ประกอบอาชีพหาบัญชีม้า ขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์



โดยพบของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ในห้องมากถึง 33 เครื่อง โทรศัพท์มือถือมากถึง 65 เครื่อง สมุดบัญชี 84 เล่ม ซิมการ์ด



จากการตรวจสอบพบว่านายลี เคยต้องโทษคดีบัญชีม้า รับโอนเงิน ก่อนจะมาอยู่ในไทย จากการสืบสวนของตำรวจ พบว่า แฟนของนายลี ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าจัดหาบัญชีม้าในไทย มีลูกน้องแบ่งเป็นสายงานแต่ละจังหวัด คอยจัดส่งบัญชีม้ามาให้ เหมือนเป็นธุรกิจขายตรงบัญชม้า มีบัญชีม้าในมือจำนวนมาก คอยจัดหาบัญชีม้าขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จีนเทาด้วยราคาสูงเป็นแสนบาท



พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า สาเหตุที่ขายบัญชีม้าราคาเป็นแสน เนื่องจากนายลี จะให้นส.ณัฐนิช ไปเปิดบัญชีม้าเป็นลักษณะนิติบุคคล เพื่อจะให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อได้อย่างแนบเนียน



โดยการหลอกลวงเหยื่อของคนร้ายกลุ่มนี้จะหลอกลงงทุนโดยแอบอ้างบุคคลที่น่าเชื่อถือ ก่อนชักชวนเข้ากลุ่มไลน์ VIP ซึ่งมีแต่หน้าม้า และส่งแอปNICshare ซึ่งเป็นแอปลงทุนปลอม ช่วงแรกคนร้ายทำทีให้กำไร เมื่อเหยื่อตายใจลงทุนเพิ่มสูงขึ้นก็ไม่สามารถถอนเงินได้ มีผู้เสียหายร่วม 50 ราย มูลค่าความเสียหายสูงถึงกว่า 800 ล้านบาท โดยยังจับระดับหัวหน้าได้อีก 1 ราย ที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้มารับบัญชีม้าจากผู้ต้องหา



นับเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีคนไทยและต่างชาติหลายรายแบ่งกันทำงานทั้งโทรหลอกให้ลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้าน และอีกกลุ่มเป็นเอเย่นขายบัญชีม้าให้คนร้ายนำไปฟอกเงิน