ถอดบทเรียนช่วยคนไทยจากแก๊งคอลฯ ในเมียนมา สู่โมเดลปรับใช้ในหลายประเทศ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ถอดบทเรียนปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรมในการช่วยเหลือคนไทยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเมืองเล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา เมื่อปลายปีที่แล้ว กลายเป็นโมเดลให้หลายประเทศนำไปช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ซึ่งในเมียนมายังมีพื้นที่ชเวก่กโก่ และเคเคปาร์คในเมืองเมียวดี ที่กำลังมีความร่วมมือในการกวาดล้างภัยคุกคามใหม่นี้



เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เปิดเผยถึงเบื้องหลังปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรมช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์จากแก๊งคอลเตอร์ จากเมืองเล่าก์ก่าย ในรัฐฉานเหนือของเมียนมา เมื่อปลายปี 2566 เป็นปฏิบัติการที่ยากที่สุดเพราะเป็นการช่วยเหลือคนไทยในภาวะสงคราม จึงต้องประสานกับหลายฝ่าย แม้ต้องใช้เวลานับเดือน แต่สามารถอพยพคนไทยจากเมียนมา ผ่านทางประเทศจีนกลับไทยได้อย่างปลอดภัย จนกลายเป็นโมเดลให้กับประเทศอื่นๆได้



เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ย้ำว่าแม้สถานการณ์ในเล่าก์ก่ายจะคลี่คลาย และคนไทยรู้แล้วว่าการทำงานในเมียนมาไม่ปลอดภัย แต่ยังมีพื้นที่ใหม่ เช่น ชเวก๊กโก่ และเคเคปาร์ค ในเมียวดี ที่กำลังมีการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงแจ้งเตือนคนไทยไม่หลงเชื่อแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้



นายมงคล วิศิษฎ์สตัมภ์ กล่าวย้ำว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง มีภารกิจในการช่วยเหลือคนไทย ที่ต้องไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมคอลเซ็นต์เตอร์เหล่านี้ จึงให้ความรู้และแจ้งเตือนภัยว่าสถานการณ์ในเมียนมา ยังมีการสู้รบในหลายเมืองและไม่ใช่พื้นที่ที่จะเข้าไปทำงานได้ หากมีปัญหาก็ติดต่อมายังสถานทูต หรือภาคประชาสังคมต่างๆ



สำหรับกรุงย่างกุ้ง หรือเมืองท่องเที่ยว เช่น มัณฑเลย์ และ พุกาม คนไทยสามารถไปท่องเที่ยวได้ แต่ต้องตรวจสอบข้อมูลจากสถานทูต หรือหากถูกชักชวนให้ไปทำงานแอดมินหรือการตลาดออนไลน์ ให้สงสัยไว้ก่อนว่ากำลังตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งกลายเป็นภารกิจที่ท้าทายของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ป้องกันไม่ให้คนไทยตกเป็นหยื่อของภัยคุกคามใหม่นี้ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ข่าว 3 มิติรายงาน